สวนไม้น้ำ

water-plants

การจัดสวนกลายเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง สำหรับผู้ที่หลงใหลในความงดงามของธรรมชาติ ในปัจจุบันการจัดสวนมีหลายประเภท ให้เลือกตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย  โดยใช้หลักทฤษฎี และองค์ประกอบต่างๆ มาสรรสร้างเนรมิตให้พื้นที่ว่างของคุณ กลายเป็นสวนสวยหน้าบ้าน ต้อนรับแขกผู้มาเยือนได้อย่างไม่เคอะเขิน

ปัจจุบันการปลูกไม้น้ำ เริ่มเป็นที่นิยมในการประดับสวนกันมากขึ้น โดยเฉพาะบ้านที่มีอาณาบริเวณกว้างขวาง อาจจะทำสวนน้ำภายในบ้าน เพื่อตกแต่งสวนของตัวเองให้น่าดู

หลักการในการจัดสวนน้ำ ประกอบด้วยองค์ประกอบหลายอย่างรวมกัน สิ่งที่ผู้อยู่อาศัยควรคำนึงถึงก่อนเป็นอันดับแรก คือ พื้นที่อาณาบริเวณที่จะใช้ขุดบ่อเพื่อทำสวนน้ำ สำหรับองค์ประกอบอื่นๆ ที่เจ้าของบ้านควรจะรู้ มีดังนี้

-                    น้ำ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ต้องเป็นน้ำสะอาด ไม่เป็นกรดด่าง หรือเป็นน้ำบาดาลที่มีหินปูนมาก

-                    แสงแดด โดยทั่วไปพรรณไม้น้ำมักชอบแสงแดดครึ่งวัน (แต่บางพันธุ์ก็ชอบแดดเต็มวัน)

-                    ดินและอินทรียวัตถุใต้น้ำ ควรใช้ดินเหนียวตามท้องนาที่ใช้ปลูกบัว ซึ่งมีขายทั่วไป ไม่ควรใช้ดินถุงที่ใช้ปลูกไม้กระถาง เนื่องจากมีซากใบไม้ที่ยังไม่ย่อยสลายที่อาจทำให้น้ำเน่าเสียได้

พรรณไม้น้ำที่ใช้ปลูก ก็มีให้เสือกสรรตามความต้องการของเจ้าของบ้าน โดยสามารถแบ่งออกเป็น 4 ชนิด จำแนกตามแหล่งของการเจริญเติบโต

  1. พืชใต้น้ำ (Submerged plants) เป็นพืชที่มีการเจริญเติบโตอยู่ใต้น้ำตลอดชีวิต ไม่มีการโผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำเลย ได้แก่ สาหร่ายหางกระรอก กระจับ สาหร่ายไฟ เป็นต้น
  2. พืชโผล่เหนือน้ำ (Emerged plants) เป็นพืชน้ำที่มีรากและลำต้นอยู่ใต้น้ำ ใบและดอกเจริญอยู่เหนือผิวน้ำ ได้แก่ เทียนน้ำ บัวหลวง บัวสาย เป็นต้น
  3. พืชลอยน้ำ (Floating plants) เป็นพืชน้ำที่เจริญลอยอยู่ที่ระดับน้ำ ราก ลำต้น ใบ ดอกเจริญอยู่ปริ่มน้ำหรือเหนือน้ำ ได้แก่ ไข่น้ำ (ผำ) ตาลปัตรฤๅษี ผักตบชวา เป็นต้น
  4. พืชชายน้ำ (Marginal plants) เป็นพืชน้ำที่ขึ้นอยู่ชายน้ำ ริมตลิ่งหนองน้ำสระน้ำ รากและลำต้นเจริญอยู่ใต้ดิน บางส่วนของต้น ใบและดอกเจริญเหนือน้ำ ได้แก่ ผักตบไทย แพงพวยน้ำ โสน บอน ธูปฤๅษี พุทธรักษา เป็นต้น

เมื่อได้พรรณน้ำที่ต้องการ เจ้าของบ้านก็เลือกปลูกตามความเหมาะสม โดยพรรณไม้น้ำที่นิยมปลูกตามบ้าน อาทิ กกอียิปต์ กกรังกา จอก บัวหลวง บัววิคตอเรีย กระดาดขาว กระดาดดำ  ว่านน้ำ  พลับพลึงแดง จอก ลานไพลิน เป็นต้น ทางที่ดีอาจจะเลี้ยงปลาไว้ด้วย เพื่อป้องกันบ่อน้ำกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และช่วยทำให้น้ำไม่นิ่งมากเกินไป ซึ่งจะช่วยชะลอการเน่าเสียของน้ำในบ่อ นอกจากนี้ก็ยังเพิ่มความสวยงาม และบันเทิงใจจากบรรดาปลาสวยสีสดที่เลี้ยงไว้ด้วย

ในส่วนของการดูแลบำรุงรักษาสวนน้ำ และไม้น้ำ มีวิธีการปฏิบัติง่ายดังนี้

1. หมั่นเก็บใบไม้ที่ร่วงลงในบ่อน้ำ สระน้ำ  เพราะใบไม้ที่ร่วงล่นลงมานั้นจะเป็นสาเหตุให้น้ำเน่าเสียได้

2. หมั่นตัดแต่งใบแก่ ช่อดอกแห้งออกบ้าง ไม่ให้กอเหล่าบรรดาไม้น้ำรกรุงรัง เพราะจะเป็นที่อาศัยของสัตว์ที่มีพิษต่างๆ

3. ควรหมั่นใส่ปุ๋ยเม็ดเพิ่มให้บ้าง โดยห่อใส่กระดาษเล็กๆ แล้วฝังลงในดิน ถ้าเป็นไม้ริมน้ำต้องใช้ปุ๋ยละลายน้ำรดตอนเช้า

4. ถ้าเลี้ยงปลาไว้ มูลปลาอาจจะทำให้น้ำเน่าเสียเร็วขึ้น ควรเปลี่ยนน้ำทุกๆ 1-2 สัปดาห์ แต่การเปลี่ยนถ่ายน้ำควรเปลี่ยนถ่ายน้ำเพียงครึ่งหนึ่งจะไม่เป็นอันตรายกับปลา และเพื่อให้ปลาสามารถปรับตัวให้เข้ากับน้ำที่เปลี่ยนใหม่ หรืออาจจะติดเครื่องกรองบำบัดน้ำเสียก็ได้เช่นเดียวกัน

ไม่ใช่เรื่องยากเลย สำหรับมือใหม่ หรือผู้ที่ต้องการปลูกไม้น้ำ จัดสวนน้ำไว้ในบ้าน เพียงศึกษาและทำความเข้าใจให้ละเอียดถี่ถ้วน ทั้งในเรื่องคุณสมบัติ  นิสัยของต้นไม้ ชอบอะไร อยู่อย่างไร ปลูกในที่ร่ม หรือ กลางแจ้ง ชอบแสงมาก แสงน้อย  น้ำมาก น้ำน้อย การจัดปลูก จึงต้องเลือกพื้นที่ หรือบริเวณที่เหมาะสม เพราะถึงพืชจะสามารถปรับตัวตามสภาพแวดล้อมได้ก็จริง แต่หากเกินรับไหว ก็อาจทำให้พืชตายได้เช่นกัน

แค่นี้คุณก็จะมีสวนน้ำสวยๆ ไว้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจภายในบ้าน และเอาไว้อวดเพื่อนบ้านของคุณได้แล้ว

Buttercup Garden

Buttercup Garden เป็นนามปากกาของนักออกแบบจากรั้วจามจุรี ที่หลงรักช่วงเวลาดีๆในสวน และมีความสุขกับการถ่ายทอดเรื่องราวน่ารู้และไอเดียเกี่ยวกับสวน เพื่่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่ปรารถนาความรื่นรมย์ในโลกสีเขียว และการจัดสวนสวยในบ้านด้วยตัวเอง

You may also like...