ในการวางโปรแกรมออกแบบบ้าน เมื่อเริ่มต้นที่ จำนวนและประเภทของสมาชิกในบ้าน ถ้าพูดถึงสมาชิกผู้อาวุโสแล้วก็ต้องไม่ลืมสมาชิกวัยเยาว์ ลูกเล็กเด็กแดง เป็นคนสำคัญของครอบครัว และเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลโดยตรงต่อการกำหนดออกแบบพื้นที่ใช้สอย
จากสถิติส่วนใหญ่คนเริ่มปลูกบ้านหรือมีบ้านหลังแรกมักเป็นคนในวัยทำงานที่เริ่มมีครอบครัว บ้างก็เป็นคู่แต่งงาน ช่วงอายุระหว่าง 30 – 40 ปี ครอบครัวของคนในช่วงอายุนี้หมายถึง พ่อ แม่ ลูก ซึ่งการออกแบบเตรียมพื้นที่บ้านสำหรับลูก ต้องคำนึงถึง ความเปลี่ยนแปลง ทั้งในด้านสรีระและพฤติกรรมตามวัยของเขา เพราะเด็กจะไม่คงความเป็นเด็กเสมอไป จากทารกเปลี่ยนเป็นเด็กอนุบาล จากอนุบาลเปลี่ยนเป็นเด็กประถม มาสู่วัยรุ่น ไปจนถึงวัยหนุ่มสาวที่พร้อมจะโบยบินออกจากอ้อมอกพ่อแม่ไปสร้างรังใหม่ของตัวเอง
บ้านเก๋ๆ โล่งๆ สำหรับคู่แต่งงานใหม่ ที่ออกแบบไว้อย่างเรียบหรูดูโมเดิร์น อาจกลายเป็นบ้านที่มีปัญหาเมื่อมีเด็ก ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบพื้นเล่นระดับ การทำบันไดโปร่งไม่มีส่วนปิดลูกตั้ง บางบ้านทำบันไดแบบไม่มีราวจับดูหวาดเสียว การทำผนังกระจก การติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ที่มีเหลี่ยมมีคม ฯลฯ สารพัดสารพันที่เคยเป็นความโก้เก๋ในบ้าน รวมถึงความโล่งและความเรียบ อาจจะสูญเสียไปเมื่อมีเด็กเล็กๆมาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้าน หากคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ไม่ได้เตรียมพื้นที่หรือเตรียมใจเผื่อเอาไว้ เพราะข้าวของเครื่องใช้สำหรับเด็กถูกออกแบบมาเพื่อประโยชน์ใช้สอยและ (เชื่อว่า) ตอบสนองรสนิยมความชอบตามระดับการรับรู้ของเด็ก จึงมักมีสีสันแบบเด็กๆ และมีรูปทรงที่ไม่ค่อยเท่ เอาไปวางส่วนไหนของบ้านก็ดูเป็นส่วนเกิน ยกเว้นในห้องที่ออกแบบไว้สำหรับเด็กโดยเฉพาะ เช่น เตียงนอนเด็ก เปลเด็ก อ่างอาบน้ำเด็ก ตู้ใส่ของสำหรับเด็ก ฯลฯ
การเตรียมพื้นที่สำหรับเด็กจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะบ้านของคู่แต่งงานใหม่ที่จะมีเจ้าตัวเล็กมาเป็นสมาชิกของบ้านในวันข้างหน้า การออกแบบบ้านเพื่อความมันส์สะใจแต่ประการเดียวจนเกิดเป็นจุดอันตรายสำหรับเด็ก ทำให้พ่อแม่หลายคนกลายเป็นฆาตกรพรากชีวิตลูกหลานตัวเองโดยไม่ได้ตั้งใจมานักต่อนักแล้ว เคยมีเด็กเล็กๆเสียชีวิตเพราะคลานตกบันได ลำตัวตกลงไปในช่องที่ควรจะมีลูกตั้งปิด ถ้าโชคดีแค่ศีรษะติดห้อยต่องแต่ง พ่อแม่มาเห็นก็ช่วยทัน แต่เด็กบางคนตกลงไปหัวฟาดพื้นเลือดออกในสมอง…ตาย! พ่อแม่ปู่ย่าตายายหัวใจสลาย ไม่รู้จะโทษใคร โทษสถาปนิก โทษตัวเอง?
ความปลอดภัยสำหรับผู้อยู่อาศัยทุกเพศทุกวัยเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดอย่างหนึ่งในการออกแบบบ้าน โดยเฉพาะความปลอดภัยของสมาชิกที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ดีนัก และถ้าหากปัจจัยด้านความปลอดภัยนี้จะลดทอนความงามความเท่ของบ้านลงไปบ้างก็ต้องยอมรับ
บ้านที่สวยแต่อยู่แล้วต้องเสี่ยงกับความเจ็บ ความตาย จนต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังตลอดเวลานั้น ไม่น่าจะเรียกได้ว่าบ้าน
ข่าวคนลื่นล้มศีรษะฟาดพื้นในห้องน้ำ ห้องครัว ก็มีให้ได้ยินกันบ่อยๆ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือเหตุสุดวิสัย แต่เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ผู้ออกแบบพึงมีไว้ในมาตรฐานของการออกแบบบ้าน แม้ว่าเจ้าของบ้านจะคิดไม่ถึงก็ตาม
หากคุณเป็นเจ้าของบ้านแล้วมีสถาปนิกเตือนคุณว่า แบบบ้านบางลักษณะที่คุณชอบอาจเป็นอันตราย ก็ควรรับฟังเอาไว้บ้าง แม้ว่าบางเรื่องอาจเป็นสิ่งที่คุณนึกภาพไม่ออกในวันนี้ เช่น ในช่วงวัยหนึ่งคุณเคยชอบบ้านที่มีพื้นเล่นระดับมาก ไม่ว่าจะเป็นห้องไหนๆก็ทำสเต็ปยกขึ้นยกลงต้องเปลี่ยนระดับการเดินหรือต้องไต่บันไดอยู่ตลอดเวลา แต่สถาปนิกเตือนว่า ควรจะเล่นระดับให้น้อยๆหน่อย เผื่อวันหนึ่งคุณอยากจะเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดวางเฟอร์นิเจอร์จะได้ทำง่ายๆ หรือวันหนึ่งคุณมีลูกมีหลาน หรือมีคนแก่อยู่ในบ้าน เช่น พ่อแม่ของคุณ หรือตัวคุณเองกลายเป็นแก่ อาจจะเดินเหินไม่สะดวกหรือสะดุดพลัดตกหกล้ม ก็อย่าไปคิดว่าสถาปนิกเขามาแช่งชักหักกระดูกคุณ แต่เขาเตือนเพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานออกแบบที่จะต้องคำนึงความเหมาะสมปลอดภัยทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า เพื่อให้บ้านสามารถรองรับความเปลี่ยนแปลงของผู้อยู่อาศัยได้ดีที่สุด
หากบางทีสถาปนิกแนะนำว่าคุณน่าจะทำห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัวเอาไว้ชั้นล่างของบ้านสักห้อง เพื่อในยามคุณแก่เฒ่าขึ้นลงบันไดไม่สะดวก หรือมีพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่มีแขกมาพักค้างคืนด้วยจะได้มีที่ทางเป็นสัดส่วน ไม่ต้องไปรบกวนความเป็นส่วนตัวของคุณ ก็อย่าไปดุว่าเขาสะเออะมาคิดแทนคุณ เพราะว่าคุณจ้างเขามาก็เพื่อช่วยคิด
สำหรับการคิดแบบเพื่อเตรียมพื้นที่ห้องเด็ก พ่อแม่มือใหม่บางคนอาจจะเห่อลูกจนเว่อร์ ทำอะไรๆก็เผื่อเด็กไปหมด แต่สิ่งที่ถูกต้องในการเตรียมพื้นที่สำหรับเด็กคือ ไม่ควรจะเตรียมถึงขั้นโครงสร้าง เช่น ทำหน้าต่างประตูและเลือกขนาดสุขภัณฑ์สำหรับเด็กโดยเฉพาะเหมือนในโรงเรียนอนุบาลหรือเนิร์สเซอรรี่ เพราะเด็กจะไม่เป็นเด็กตลอดไป ควรออกแบบพื้นที่ให้เป็นกลางๆ เพื่อให้เขาใช้พื้นที่นั้นได้ตลอดเมื่อโตขึ้น โดยอาจจะเปลี่ยนแปลงในส่วนของการตกแต่งบ้างเล็กๆน้อยๆ เช่น มีพื้นที่เพียงพอสำหรับเปลี่ยนจากเตียงเด็กอ่อน เปลเด็ก มาเป็นเตียงขนาดปกติ เมื่อเขาโตเป็นวัยรุ่น หรือลูกชายกับลูกสาวที่เคยนอนห้องเดียวกันได้เมื่อยังเล็ก ก็ต้องมีพื้นที่ให้แยกห้องกันนอนได้เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น โดยในห้องของลูกควรมีพื้นที่ให้เขาได้จัดวางของใช้ส่วนตัวเหมาะสมตามวัย มีความเป็นส่วนตัว มีความรู้สึกเป็นเจ้าของพื้นที่ ช่วยให้เขารู้สึกสบายใจที่ได้อยู่บ้าน มีความรักบ้านรักครอบครัว เพราะบ้านที่น่าอยู่จะเป็นภูมิคุ้มกันเด็กๆในครอบครัวให้ปลอดภัยจากปัญหาสังคมมากมายข้างนอกบ้านได้โดยอัตโนมัติ
……………..
เรียบเรียงโดย
อ. วรรณศิริ ศรีวราธนบูลย์
dp@dp-studio.com