ในยุคที่การทำธุรกิจของตัวเองกำลังมาแรง เทคโนโลยีการสื่อสารที่แสนสะดวกสบายทำให้การทำงานของนักธุรกิจยุคใหม่ไม่ต้องจำกัดอยู่แค่ในอาคารสำนักงานเหมือนอย่างสมัยก่อน เทร็นด์การลงทุนในอสังหาประเภท ‘โฮมออฟฟิศ’ จึงได้รับความนิยมอย่างสูง เพราะนอกจากจะรวมฟังก์ชั่นของที่ทำงานกับที่อยู่อาศัยเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัวแล้ว ยังช่วยประหยัดเวลาในการเดินทาง ทำให้มีเวลาคุณภาพเพิ่มขึ้น ทั้งสำหรับการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพและการพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม ซึ่งวิธีคิดในการซื้อโฮมออฟฟิศนั้นย่อมจะต่างกับการซื้อบ้านเพื่อการอยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว เพราะจัดเป็นต้นทุนส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจด้วย เรามาดูกันว่า เราจะเลือกลงทุนในโฮมออฟฟิศยังไงให้ได้กำไรทั้งในแง่ธุรกิจและได้กำไรชีวิต
เลือกทำเลที่ใช่สำหรับธุรกิจและการใช้ชีวิต- คำว่า ‘ทำเลที่ดี’ สำหรับธุรกิจแต่ละประเภทย่อมมีความหมายแตกต่างกัน การเลือกทำเลสำหรับการทำธุรกิจในยุคก่อนๆ อาจหมายถึงการเลือก ‘ย่านหรือชุมชน’ ที่เป็นศูนย์รวมของธุรกิจประเภทนั้นๆ อันเป็นที่มาของย่านการค้าหรือย่านธุรกิจดั้งเดิม เช่น ย่านสีลม สำเพ็ง พาหุรัด ประตูน้ำ ฯลฯ ที่เมื่อเอ่ยชื่อทำเลปุ๊บ คนทั่วไปก็จะรู้ทันทีว่า ย่านนั้นค้าขายอะไร แต่การทำธุรกิจในยุคนี้ไม่จำเป็นต้องไปตั้งร้านอยู่รวมกันที่เดียวจนเกิดเป็นย่าน เพราะการสื่อสารคมนาคมที่สะดวกช่วยให้คนส่วนมากไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลไปซื้อของหรือทำธุรกรรมต่างๆถึงสถานประกอบการ สามารถสั่งสินค้าออนไลน์ ประชุมผ่านอินเตอร์เน็ต ทำเลที่ใช่สำหรับโฮมออฟฟิศที่ดีจึงหมายถึง ทำเลที่เดินทางสะดวกทั้งสำหรับลูกค้า สะดวกสำหรับเพื่อนร่วมงาน และสะดวกต่อการใช้ชีวิต ทำเลที่กำลังฮอตสำหรับโฮมออฟฟิศในกรุงเทพฯ ตอนนี้ก็คือ ย่านบางนา สุขุมวิท และเกษตรนวมินทร์ เพราะเดินทางสะดวกมาก
ราคาอยู่ในกรอบงบประมาณของธุรกิจ เพราะเป็นส่วนของการลงทุน– การซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยถือเป็นค่าใช้จ่ายการซื้อความสุขให้ชีวิต ความคุ้มค่าจึงขึ้นอยู่กับความสุขและความพึงพอใจ แต่การซื้อโฮมออฟฟิศเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนในการทำธุรกิจ จึงต้องดูราคาของโครงการให้เหมาะสมกับวงเงินงบประมาณสำหรับธุรกิจของเราด้วย โดยทางที่ดีควรให้อัตราการผ่อนชำระค่างวดสมดุลกับแผนการเงินที่เป็นส่วนหนึ่งของแผนธุรกิจ เพื่อให้ไม่กระทบกับสภาพคล่องของบริษัท
มีที่จอดรถสะดวกสบาย– การทำบ้านเป็นสำนักงานต้องคำนึงถึงการมีลูกค้าและผู้ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจที่จะต้องเดินทางมาติดต่ออย่างสม่ำเสมอ การเลือกโฮมออฟฟิศที่ดีจึงต้องดูว่า ทางโครงการมีที่จอดรถเตรียมไว้เพียงพอสำหรับรองรับธุรกิจของเราหรือไม่ เพื่อให้ลูกค้าที่มาติดต่อได้รับความสะดวกและไม่รบกวนเพื่อนบ้านหรือไปจอดรถกีดขวางพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
มีสาธารณูปโภคครบครัน– โฮมออฟฟิศที่ดีต้องมีระบบสาธารณูปโภคที่ครบถ้วน ทั้งเพื่อการทำธุรกิจและการอยู่อาศัย มีการจัดการพื้นที่ส่วนกลางอย่างมีคุณภาพ มีสภาพแวดล้อมที่ดีต่อการอยู่อาศัย และการพักผ่อน มีความปลอดภัยในการใช้ชีวิตตลอด 24 ชั่วโมง
มีรูปแบบการใช้สอยและดีไซน์ที่ตอบโจทย์ประเภทธุรกิจของเราจริงๆ– การทำธุรกิจแต่ละประเภทต้องการลักษณะพื้นที่ไม่เหมือนกัน ควรพิจารณาเลือกโฮมออฟฟิศที่มีฟังก์ชั่นตรงกับการใช้งานทางธุรกิจของเรามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นขนาดพื้นที่เพียงพอต่อการใช้งานหรือลักษณะการออกแบบที่ลงตัว ทั้งการทำธุรกิจและการใช้ชีวิตหลังเลิกงาน
การออกแบบที่สามารถยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้– เพราะทุกธุรกิจต้องพร้อมสำหรับการปรับตัวอยู่เสมอ พื้นที่สำหรับการทำธุรกิจที่ดีจึงควรมีศักยภาพในการปรับเปลี่ยนรูปแบบพื้นที่ใช้สอย เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปหรือโอกาสในการขยับขยาย
เลือกโครงการที่มีชื่อเสียงดี เป็นที่ต้องการ เหมาะแก่การลงทุน ซื้อง่ายขายคล่อง– การเลือกซื้อโฮมออฟฟิศของบริษัทที่มีชื่อเสียงดี ทำให้มั่นใจได้ว่า เราจะได้เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพ คุ้มค่าแก่การลงทุนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยเราจะมีกำไรทั้งที่จะได้รับจากการรูปแบบใช้งานที่ส่งเสริมธุรกิจของเราให้ทำมาค้าขึ้น และหากต้องการขายต่อเพื่อทำกำไรในอนาคตก็จะเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อ สามารถขายได้ในราคาที่สูง
หากใครที่กำลังตัดสินใจเลือกโฮมออฟฟิศเพื่อธุรกิจของคุณ ก็สามารถนำข้อพิจารณาในการตัดสินใจเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ได้ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
ภาพประกอบ : โครงการโฮมออฟฟิศระดับพรีเมียมในทำเลทอง ของ บริษัท Real Asset Development https://www.realasset.co.th/