แสนสิริ ชวนคนหลายเจเนอเรชั่นร่วมถ่ายทอดแรงบันดาลใจไลฟ์สไตล์แห่งการอยู่อาศัย ย่านสนามเป้า-อารีย์ แหล่งฮิปแฮงค์เอาท์ใหม่ใจกลางกรุงในแคมเปญ ‘The Monument to Generations’
“หากพูดถึงย่านที่พักอาศัยเก่าแก่และมีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่ยุคพัฒนากรุงเทพฯแรกๆ ย่านสนามเป้า อารีย์และซอยราชครู เป็นแหล่งที่เต็มไปด้วยความทรงจำที่ดีและเป็นศูนย์รวมของบุคคลสำคัญมาทุกยุคทุกสมัย ที่สำคัญยังเป็นโซนกลางเมืองที่ยังมีความร่มรื่นซึ่งหาได้น้อยในสมัยนี้ปัจจุบันย่านนี้เปรียบเสมือนศูนย์กลางการรวมตัวของวัฒนธรรมสมัยก่อน (Old Culture)และความทันสมัย(New Generation) เข้าด้วยกันอย่างลงตัว จะเห็นได้จากบริเวณรอบๆของโซนนี้ได้กลายเป็นแหล่งฮิปแฮงค์เอาท์อีกแห่งหนึ่งของคนรุ่นใหม่ที่เพียบพร้อมทั้งร้านอาหาร
ร้านกาแฟอิสระ (Independent Coffee)คอมมูนิตี้มอลล์ แม้ว่าคนส่วนมากมักจะนึกถึงแต่โซนสุขุมวิท แต่โซนสนามเป้า-อารีย์ก็ดีไม่แพ้กัน” อภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริจำกัด (มหาชน) กล่าว
แสนสิริ เปิดตัวคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียมติดรถไฟฟ้าสนามเป้าล่าสุด เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า (THE MONUMENT SANAMPAO)ใจกลางย่านสนามเป้า ซอยราชครูและอารีย์ แหล่งศูนย์รวมไลฟ์สไตล์สุดฮิปที่มากด้วยมนต์เสน่ห์ดึงดูดผู้คนให้หลงใหล จัดแคมเปญ ‘The Monument to Generations’ (เดอะโมนูเมนต์ ทู เจเนอเรชั่น)ถ่ายทอดภาพวิถีชีวิตและการส่งต่อความสำเร็จจากรุ่นสู่รุ่นซึ่งหล่อหลอมจนกลายเป็นวัฒนธรรมของผู้คนในย่านนี้
โดยได้ดึงคนหลากหลายเจเนอเรชั่นที่อาศัยหรือโปรดปรานในย่านนี้ มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวความผูกพันและประสบการณ์ดีๆ อาทิ พิมลศักดิ์ -ปิยะศักดิ์ สุวรรณทัต ที่รุ่นพ่อรับราชการเป็นข้าราชบริพารรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มากว่า 30 ปี ณัฏฐิ์มาฎา- ณัฏฐกรม์ ชุณหะวัณ ที่ครอบครัวพักอาศัยอยู่ในย่านนี้มาตั้งแต่ยุคแรกๆของการสร้างถนนพหลโยธิน พจน์-ฆฤณ ลักษณะสมพงศ์ สองพ่อลูกนักรักบี้ทีมชาติไทยที่ใช้ชีวิตอยู่ไม่ห่างจากย่านนี้ จอม เชี่ยวสกุล ลูกชายอัจฉรา เชี่ยวสกุลเจ้าของร้านอาหารไทยยอดนิยม ‘แม่ยุ้ย’ ที่ให้ชาวอารีย์และราชครูได้ฝากท้องมากว่า 13 ปี นอกจากนี้ยังมีพิจิตรา บุณยรัตพันธุ์ ดีไซเนอร์คนดังและลูกชายมหาสมุทร บุณยรักษ์ สุพจน์ -เฉลิมพงษ์ ศรีโรจนันท์ เป็นต้น
เริ่มต้นด้วยสองพี่น้อง ณัฏฐิ์มาฎา - ณัฏฐกรม์ ชุณหะวัณถือเป็นตระกูลเก่าแก่ที่เติบโตมาในยุคแรกๆของการสร้างถนนพหลโยธิน เล่าให้ฟังว่า “มิ้งค์อยู่ที่ซอยราชครูมาเกือบ28 ปีแล้ว เรียกได้ว่าเกิดและโตที่นี่จึงรู้สึกผูกพันและรักย่านนี้มากๆ ที่นี่มีบุคคลสำคัญและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งครอบครัวของมิ้งค์อยู่ที่นี่มาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยคุณตาทวดของมิ้งค์(พระยาสาลีรัฐวิภาค) ท่านมาซื้อที่ดินตรงพหลโยธินซอย 9 และปลูกบ้านขึ้นเป็นหลังแรก ส่วนคุณปู่ทวด(จอมพล ผิน ชุณหะวัณ) ก็มาซื้อที่ดินแถวนี้และมักไปมาหาสู่นำขนมมาให้กันเสมอจนกลายเป็นครอบครัวเดียวกัน แม้ว่ารุ่นมิ้งค์นั้นจะเป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 แต่ภาพขนบธรรมเนียมประเพณีไทยดั้งเดิมสำหรับมิ้งค์ยังคงชินตาเพราะยังพบเห็นได้เป็นประจำ อย่างวันสงกรานต์ที่ผ่านมาเราก็จะไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ จากนั้นก็ไปสรงน้ำพระทำบุญที่วัดพระศรีมหาธาตุซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ย่านนี้นี่เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้มิ้งค์หลงรักที่นี่ค่ะ”
ด้านน้องชายณัฏฐกรม์ ชุณหะวัณกล่าวเสริมว่า “เมื่อ 10กว่าปีก่อน แถวนี้ยังไม่พลุกพล่าน ขนาดนี้มีแต่ร้านอาหาร ร้านขนมเล็กๆ โดยรอบ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอาหารจานเดียวง่ายๆ เช่น ข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยวเป็ด แต่ปัจจุบันเนื่องจากการเดินทางสะดวก มีรถไฟฟ้า รถส่วนตัวก็สามารถมาได้หลายเส้นทางทั้งพหลโยธินและพระราม6มีคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นจึงเป็นที่มาของการขยายตัวของคอมมูนิตี้ย่านนี้ ทำให้วัฒนธรรมการกินอยู่และไลฟ์สไตล์รอบข้างได้เปลี่ยนไป สมัยก่อนผมและครอบครัวจะฝากท้องที่ร้านบ้านแม่ยุ้ยเป็นประจำทุกวันนี้มีร้านให้เลือกเพิ่มขึ้นมากมาย อย่างช่วงเย็นๆมีร้านบรรยากาศดีให้นั่งชิลหลายร้าน อาทิซอลท์ (Salt) ร้านอาหารฟิวชั่นหรือร้านแฟทเบิร์ด (Fat Bird) ที่ตกแต่งด้วยของสะสมโบราณจากยุโรปในสไตล์วินเทจ ครบครันและใกล้บ้านขนาดนี้ เราแทบจะไม่อยากไปไหนเลย”
จอม เชี่ยวสกุลผู้สืบทอดร้านอาหารแม่ยุ้ยจากคุณแม่เผยว่า “ร้านอาหารบ้านแม่ยุ้ยสมัยก่อนเป็นเรือนไม้ที่ทางครอบครัวได้สร้างขึ้น เพื่อให้คนเช่าพักอาศัยนับเป็นสิ่งปลูกสร้างแรกๆ ที่เกิดขึ้นในซอยราชครู หลังจากนั้นครอบครัวจอม คือตระกูลชุณหะวัณ เชี่ยวสกุล ทัพพะรังสี อดิเรกสารและสีหะนนท์ก็ย้ายมาอยู่พร้อมเพื่อนสนิทของคุณปู่จนกลายเป็นคอมมูนิตี้เล็กๆ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของวิถีชีวิตของย่านนี้ที่ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ที่ฮิปและเป็นหนึ่งในอาทิสทรีซีน (Artistry scene) ของกรุงเทพฯ มีทั้งคอนโดมิเนียม ร้านค้า ร้านอาหาร รถไฟฟ้า ทำให้คนมาพบปะสังสรรค์กันได้ง่ายขึ้น ส่วนร้านอาหารบ้านแม่ยุ้ยที่เกิดจากคุณแม่เป็นคนชอบทำอาหารและอยากให้ญาติๆมารวมตัวกัน จึงได้นำสูตรของคุณยายใหญ่ซึ่งเป็นสูตรอาหารดั้งเดิมของคนพื้นเพที่นี่มาเปิดเป็นร้านอาหาร เพื่อเป็นจุดศูนย์รวมให้คนในย่านนี้ได้มาเจอกันทุกวันนี้เราได้ขยายร้านไปถึง 6 สาขา เป็นความภูมิใจอย่างหนึ่งที่เราสามารถขยายร้าน จนกลายเป็นธุรกิจใหญ่ของครอบครัวได้”
ปอม ชานอิลลัสเตรชั่นดีไซเนอร์สาวผู้ใช้ชีวิตอยู่ประเทศอังกฤษมานานกว่า 10 ปี ให้นิยามย่านนี้ว่า “แถวๆสนามเป้า-อารีย์เป็นเหมือนแถบตะวันออกของลอนดอน เช่น ชอร์ดิทช์ (Shoreditch)แฮคนี่ย์ (Hackney) ซึ่งผู้คนยังไม่พลุกพล่านมากแต่มีร้านเล็กๆเก๋ๆเป็นธุรกิจที่สร้างขึ้นจากความชื่นชอบส่วนตัว ทำให้ร้านแถบนั้นมีเอกลักษณ์และมีเสน่ห์บ้านปอมเองก็อยู่วิภาวดีซึ่งไม่ไกลจากแถวนี้จึงมาแฮงค์เอาท์ที่นี่บ่อย อีกทั้งมีเพื่อนเปิดร้านกาแฟอยู่ในร้านจักรยาน Tokyo Bike ชีวิตส่วนใหญ่นอกเหนือจากเวลาทำงานย่านสุขุมวิทก็มักออกมาทานข้าวย่านอารีย์ จากนั้นก็ไปนั่งชิลที่สวนรถไฟ ไปเดินเจเจกรีนบ้าง ก็จะอยู่แค่ละแวกนี้บางครั้งก็อยากจะเขยิบออกมาใช้ชีวิตที่เงียบๆร่มรื่นเติมความสงบสดใสให้กับชีวิต
พจน์ - ฆฤณ ลักษณะสมพงศ์ สองพ่อลูกนักรักบี้ทีมชาติไทย เผยถึงชีวิตตัวเองว่า “ตัวผมเองก็ ไม่ได้คาดหวังว่าลูกจะต้องมาเดินตามรอยเท้าของพ่อ ขอให้เขาใช้ชีวิตของเขาอย่างสนุกและ ประสบความสำเร็จก็พอ แต่ลูกๆก็โตมาข้างสนามก็ว่าได้ ทุกครั้งที่พ่อเล่นเขาก็จะนั่งอยู่ข้างสนามจึงซึมซับ ‘ความเป็นผม’ ไปเยอะ” พจน์ กล่าว
ด้านลูกชายสุดหล่อเผยว่า “ผมเองก็มีคุณพ่อเป็นแบบอย่าง เป็นแรงบันดาลใจ จากชีวิตเด็กจวบ จนปัจจุบันเหมือนคุณพ่อแทบจะทุกย่างก้าว เรียนโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย เป็นนักรักบี้โรงเรียน เล่นรักบี้ตำแหน่งฟลายฮาล์ฟตำแหน่งเดียวกับคุณพ่อ และปัจจุบันเล่นรักบี้ให้กับทีมชาติไทยเหมือนคุณพ่อ จากการที่เล่นตำแหน่งเดียวกันทำให้ผมมีโค้ชส่วนตัวทุกเกมคุณพ่อสอนให้ตั้งแต่ การเตรียมตัว ฝึกซ้อม ตารางการเข้ายิมรวมถึงการอ่านและเรียนรู้เกมต่างๆ”
เฉลิมพงษ์ ศรีโรจนันท์ ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงแห่งคาร์สัน กล่าวว่า “สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการทำ ธุรกิจของรุ่นคุณพ่อคุณแม่คือการทำธุรกิจอย่างซื่อสัตย์ต่อคู่ค้าและผู้บริโภคด้วยการนำเสนอ สินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่จับต้องได้ ซึ่งปัจจุบันผมก็ยังคงยึดหลักการทำธุรกิจแบบเดิม แต่ได้นำ เทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาช่วยในเรื่องของการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น อาทิ เทคโนโลยีการทอ เส้นด้าย เนื้อผ้าพิเศษ นอกจากนั้นเรายังแตกไลน์ให้มีหลากหลายเพื่อขยายกลุ่มผู้บริโภค จากเดิม ที่ผลิตเฉพาะถุงเท้านักเรียนเป็นหลัก โดยเพิ่มถุงเท้าทำงาน ถุงเท้าแฟชั่น อันเดอร์แวร์สำหรับเด็กและผู้ชาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่มากยิ่งขึ้น”
พิตต้า ณ พัทลุง ดาราสาวสวย กล่าวว่า “เวลาแฮงค์เอาท์ต้าและเพื่อนๆ จะนึกถึงร้านอาหารย่านอารีย์เสมอ เพราะแถวนั้นมีร้านอาหารให้เลือกเยอะหลากหลายสไตล์ ซึ่งร้านที่ไปเป็นประจำ ก็คือ ร้านคาซ่า ลาแปง ร้านกาแฟ บรรยากาศร่มรื่น นั่งสบายและร้านปลาดิบ ร้านอาหารญี่ปุ่นฟิวชั่น ซึ่งต้าชอบเป็นพิเศษ เพราะอาหารอร่อยราคาไม่แพง สามารถนั่งชิลได้และที่สำคัญเดินทางสะดวก สำหรับใครที่กำลังหาที่แฮงค์เอาท์กับเพื่อนๆ ต้าแนะนำย่านนี้เลยค่ะ”
เดอะ โมนูเมนต์สนามเป้า (THE MONUMENT SANAMPAO)คอนโดมิเนียมระดับพรีเมียมล่าสุดของแสนสิริ ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นที่กว่า 1 ไร่บนนถนนพหลโยธิน ติดรถไฟฟ้าสนามเป้า โดยมุ่งหมายให้เป็นแลนด์มาร์ค อีกแห่งหนึ่งที่สำคัญของย่านนี้ โดยตัวตึกได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันในทุกตารางเมตร เริ่มตั้งแต่ด้านหน้าของตัวอาคารที่มีความโค้งได้องศาไล่ระดับตกแต่งโพเดียมให้น่าสนใจด้วยไฟแรนดอมไปกับตัวอาคารทำให้ดูหรูหรามีเอกลักษณ์ ตัวอาคารมีทั้งหมด 24 ชั้น 86 ยูนิตเท่านั้น มีแบบห้องให้เลือกมากมายตั้งแต่แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 46 ตารางเมตร จนถึงเพนท์เฮ้าส์ขนาด 138 ตารางเมตร ที่สำคัญส่วนกลางของ เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า นับว่าเป็นส่วนกลางที่ครบวงจรที่สุดตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของคนเมืองเลยก็ว่าได้ อาทิ พื้นที่โถงต้อนรับ (Lobby Lounge)ห้องดูหนัง (TheatreRoom) ห้องน้ำชา(High Tea Room) ห้องสมุด (The Library) ห้องนวดส่วนตัว (Private Massage Room) ห้องสังสรรค์(Social Club) ห้องเอนกประสงค์ (Multipurpose Room) ส่วนบริเวณชั้น 22และ 23ถูกดีไซน์ขึ้นเป็นสวนแนวตั้งที่ร่มรื่น โดยการออกแบบนั้นมีจุดมุ่งหมายให้สัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิดกลมกลืน เน้นสร้างบรรยากาศสงบและเป็นส่วนตัวตัดขาดจากสภาพแวดล้อมที่วุ่นวายภายนอก ส่วนฟิตเนสที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของ เดอะ โมนูเมนต์สนามเป้านี้อยู่บนชั้นสูงสุดของอาคาร สามารถมองลงมาเห็นวิวของเมืองได้ชัดเจนและเห็นสระว่ายน้ำที่ชั้น 23ที่ห้อมล้อมด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด ให้ออกกำลังกายและพักผ่อนได้อย่างมีสุนทรียภาพ นับเป็นจุดศูนย์กลางที่ผสมผสานระหว่างความสุขสงบไปกับธรรมชาติแวดล้อมด้วยกลิ่นอายคลาสสิคในรูปแบบวัฒนธรรมดั้งเดิมและการออกแบบเพื่อประโยชน์ใช้สอยที่ทันสมัยตรงใจคนรุ่นใหม่บนทำเลศักยภาพที่เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตย่างก้าวของความฝันและความสำเร็จที่พร้อมจะส่งต่อประสบการณ์ดีๆเหล่านี้ เพื่อเป็นมรดกให้รุ่นลูกรุ่นหลานสืบไป
สามารถติดตามรายละเอียดของโครงการ THE MONUMENT SANAMPAOคอนโดมิเนียมคอนเซ็ปต์ใหม่จากแสนสิริได้ที่ www.sansiri.comหรือ โทร. 1685
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Z Communications โทร. / แฟกซ์ 02-651-5911 จามจุรี สกุลสง่า 088-636-3399 zcomunicationz@gmail.com ประชาสัมพันธ์ในนาม แสนสิริ