ความจริงที่ว่า การวางแผนการเงินหลังเกษียณเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำให้เรียบร้อยก่อนเกษียณ เป็นสิ่งที่ทุกคนรู้ดี แต่อาจไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ เพราะความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ และความไม่แน่นอนของชีวิต อย่างไรก็ตาม สำหรับคนวัยเกษียณที่มีบ้านเป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเองและปลอดจากหนี้สิน ก็ยังนับว่าอยู่ในสถานะที่ปลอดภัย เพราะประโยชน์ของการมีบ้านนั้นไม่ใช่แค่เป็นที่อยู่อาศัยให้เราได้รับความสุขและภาคภูมิใจ แต่ยังเป็นสินทรัพย์ชั้นดีที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินทุนให้เรามีใช้จ่ายไปได้อย่างสะดวกสบายตลอดชีวิต
.
เนื่องจากรัฐบาลได้ออกมาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุประเภทหนึ่งขึ้นเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้สูงอายุโดยเฉพาะ สำหรับผู้สูงอายุที่มีบ้านเป็นของตนเองแต่ไม่ต้องการขายบ้านทันที เพราะยังต้องใช้อยู่อาศัยและต้องการมีรายได้รายเดือนเพื่อนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เรียกว่า Reverse Mortgage หรือ การขอสินเชื่อแบบย้อนกลับ
.
Reverse Mortgage คือสินเชื่อที่ให้คนอายุระหว่าง 60 – 85 ปี สามารถนำบ้านที่ตัวเองถือกรรมสิทธิ์ และปลอดภาระหนี้สินแล้ว มาใช้เป็นหลักทรัพย์ในการกู้ เพื่อรับเงินใช้ยามเกษียณ ซึ่งผู้ขอสินเชื่อสามารถเลือกรับเป็นเงินก้อน หรือเงินรายเดือนก็ได้โดยกรรมสิทธิ์ในบ้านยังคงเป็นของเรา และอยู่อาศัยในบ้านหลังเดิมได้ จนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิต อธิบายให้เข้าใจง่ายๆก็คือ ผู้สูงอายุเอาบ้านมาขายให้กับธนาคาร และธนาคารจะตีมูลค่าบ้านพร้อมกับประเมินอายุเฉลี่ยของผู้กู้แล้วจะทยอยจ่ายเงินค่าบ้านให้เป็นรายเดือน เพื่อให้ผู้สูงอายุมีรายได้ไว้ใช้จ่ายเหมือนบำนาญ โดยเจ้าของบ้านหรือผู้กู้ยังสามารถอาศัยอยู่ในบ้านได้จนกระทั่งผู้กู้นั้นสิ้นอายุขัยหรือตัดสินใจขายบ้านไปก่อน ซึ่งหลังครบกำหนดตามสัญญา บ้านก็จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของธนาคาร โดยธนาคารสามารถนำบ้านไปขายทอดตลาด เพื่อนำเงินกลับมาปิดยอดหนี้ในส่วนที่จ่ายเงินก้อน หรือเงินบำนาญรายเดือนให้กับเราก่อนหน้านี้ และหากบ้านที่ขายได้ในขณะนั้นมูลค่ามากกว่ายอดหนี้ของผู้ขอสินเชื่อเดิม ธนาคารก็จะทำการแบ่งเงินให้กลับไปที่ทายาทของผู้ขอสินเชื่อ แต่ในกรณีที่เมื่อผู้ขอสินเชื่อเสียชีวิตลงโดยที่ธนาคารยังจ่ายเงินให้ไม่ถึงเกณฑ์ราคาบ้าน และทายาทต้องการนำบ้านคืน ก็สามารถนำเงินมาไถ่ถอนบ้านคืนได้
.
สินเชื่อที่ชื่อว่า Reverse Mortgage นี้จัดเป็นสวัสดิการส่วนหนึ่งของภาครัฐเพื่อรองรับสังคมสูงวัย ในปัจจุบัน ผู้สูงอายุที่สนใจสามารถไปติดต่อได้ที่ ธนาคารออมสิน และ ธนาคารอาคารสงเคราะห์
มีเงื่อนไขเบื้องต้นคือ
- ผู้ขอสินเชื่อมีอายุระหว่าง 60-80 ปี มีบ้านเป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง ทายาทรับรู้และยินยอมให้เข้าร่วมโครงการ
- นำบ้านมาขอสินเชื่อ Reverse Mortgage โดยกำหนดวงเงินสินเชื่อ สูงสุด 70% ของราคาประเมินบ้าน
- ผู้ขอสินเชื่อเลือกรับเลือกรับ เงินก้อน หรือ เงินบำนาญรายเดือน โดยมีระยะเวลารับเงินสูงสุดนาน 25 ปี
- ผู้ขอสินเชื่ออยู่บ้านหลังเดิมจนเสียชีวิต หลังจากนั้นหากทายาทต้องการบ้านเก็บไว้ ก็สามารถนำเงินมาไถ่ถอนบ้านกลับคืนได้ แต่ถ้าหากไม่ต้องการธนาคารก็จะนำบ้านไปขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้คืน
.
ผู้สูงวัยที่มีบ้านเป็นของตัวเอง ไม่มีลูกหลาน และต้องการมีรายได้ไว้ใช้จ่ายหลังเกษียณ หากสนใจที่จะเข้าร่วมโครงการสินเชื่อ Reverse Mortgage ก็สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ธนาคารของรัฐทั้งสองแห่งที่แนะนำมาข้างต้น หากเข้าข่ายได้รับสิทธิ์ก็จะช่วยให้หมดกังวลกับภาระค่าครองชีพในช่วงบั้นปลายได้
———-
อ้างอิง
https://finstreet.co/reverse-mortgage/
https://www.bangkokbiznews.com/business/932403
https://www.consumerfinance.gov