พูดถึงคำว่า Pocket ซึ่งแปลว่ากระเป๋า เวลาเอาคำนี้ไปเติมหน้าคำอื่นก็จะให้ความรู้สึกถึงความสะดวกในการพกพา นำติดตัวไปไหนๆ มีขนาดกำลังเหมาะไม่ใหญ่โตเทอะทะ เช่น Pocketbook ก็หมายถึงหนังสือขนาดพกพา Pocket-wifi หมายถึงอุปกรณ์เชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตแบบพกติดใส่กระเป๋าได้ หรือ Pocket Knife ที่หมายถึงมีดพับ และ Pocket Watch หมายถึงนาฬิกาแบบพกใส่กระเป๋า
เมื่อมาถึงคำว่า Pocket Garden ก็อาจทำให้หลายคนเกิดอาการงงน้อยๆ ว่ามันจะหมายถึงสวนชนิดไหนกันหนอที่คนเราจะสามารถพกพาไปไหนต่อไหนได้ และก็มีการตีความคำนี้ออกไปในหลายรูปแบบ บ้างก็คิดว่าหมายถึงสวนจิ๋วในภาชนะเล็กๆ สวนขวด สวนถาด หรือบางคนก็เข้าใจไปว่า อาจจะเป็นสวนในพื้นที่ขนาดเล็ก ซึ่งที่พูดมานั้นก็ไม่ถูกทั้งหมดและไม่ผิดทั้งหมด เพราะหัวใจของการเป็น Pocket Garden ก็คือความสะดวกในการนำพาหรือสร้างสรรค์พื้นที่สีเขียวให้เกิดขึ้นในทำเลที่เราต้องการได้ทุกแห่งหน จึงอาจเป็นได้ตั้งแต่สวนขวดใบน้อยๆ เรื่อยไปจนถึงพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สร้างสรรค์ให้กลายเป็นสวนได้อย่างรวดเร็วด้วยไม้กระถาง ดังนั้น ถ้าให้ตอบความหมายที่ตรงสุดๆสำหรับ Pocket Garden ก็คือสวนที่นำไปจัดวางที่ไหนก็ได้ โดยไม่เน้นการปลูกต้นไม้ส่วนใหญ่ลงดินแบบถาวรนั่นเอง แต่อาจจะมีข้อยกเว้นได้ในกรณีที่พื้นที่เดิมมีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาอยู่แล้ว การสร้าง Pocket Garden ก็เป็นได้โดยการนำไม้กระถางไปเสริมให้พื้นที่โดยรวมนั้นกลายเป็นสวนสวยๆ ขึ้นมาด้วยเวลาไม่นาน
ด้วยเหตุนี้ Pocket Garden จึงไม่ได้หมายถึงสวนในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง แต่หมายถึงวิธีในการสร้างให้เกิดสวนขึ้นได้เองอย่างง่ายๆ เสมือนกับว่าเราสามารถพกสวนสวยติดตัวไปติดตั้งใช้งานตามที่ต่างๆได้ดังใจ เช่น การนำกระถางใบน้อย หรือสวนในขวดไปตกแต่งบนโต๊ะทำงาน การนำกระถางไม้แขวนไปตกแต่งสร้างความร่มรื่นและเพิ่มบรรยากาศสดชื่นตรงระเบียงคอนโด เรื่อยไปจนถึงการจัดสวนด้วยไม้กระถาง ไม้แขวน วางระแนงไม้เลื้อยบนดาดฟ้า หรือแม้แต่การเปลี่ยนซอกมุมอับร้างหรือแล้งๆในบ้านให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวสำหรับพักสายตา หย่อนใจ ด้วยการตั้งกระถางพันธุ์ไม้ที่อยู่ได้ในร่มเงา รวมถึงพวกไม้อวบน้ำ ไม้ที่มีรากอากาศ และไม้ย่อส่วนในกระถางอย่างบอนไซ หรือตะโกดัด
ข้อดีของการเนรมิตสวนด้วยการนำกระถางไปวางแทนการปลูกลงดิน ก็คือเจ้าของพื้นที่อาจไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องการปลูกต้นไม้ดีลึกซึ้งเท่ากับนักจัดสวนมืออาชีพ เพราะสามารถซื้อไม้กระถางที่เขาปลูกมาสำเร็จรูปสวยงามจากร้านขายต้นไม้มาจัดวางได้ดังใจ โดยก่อนนำมาจัด ก็ถามคนขายเสียหน่อยว่า ต้นไม้ชนิดไหนชอบการดูแลแบบไหน ชอบแดด ชอบน้ำ ในปริมาณเท่าใด ต้องใส่ปุ๋ยสูตรใด และก็จำมาใช้เพื่อดูแลไม้ในกระถางต่างๆให้สวยเหมือนตอนที่ยังวางขายอยู่ที่ร้านก็ถือว่าใช้ได้ ง่ายกว่าการนำมาปลูกลงดินมาก เพราะถ้าไม่ใช่คนที่มีความรู้เรื่องสวน เรื่องการเตรียมดิน โอกาสที่จะปลูกลงดินแล้วออกมาดูดีนั้นไม่ง่ายเลย หรืออาจจะดูดีอยู่แค่ช่วงแรกๆ แต่พอผ่านไปสักพักก็เริ่มจะไม่สวย และไม่รู้ว่าจะต้องจัดการอย่างไร ทำให้เสียกำลังใจได้ง่ายๆเหมือนกัน
เนื่องจากการย้ายต้นไม้ในกระถางที่ซื้อมาเพื่อปลูกลงดินนั้น วัสดุปลูกรวมถึงปุ๋ยและสารบำรุงต้นไม้ต่างๆที่คนขายเขาใส่มาอย่างเต็มที่ในกระถาง เพื่อให้ต้นไม้ดูสวยสมบูรณ์น่าซื้อ ก็มีโอกาสจะสลายเจือจางละลายหายไปกับดินรอบข้าง สวนทางกับความคาดหวังและความเข้าใจผิดๆของคนซื้อต้นไม้ส่วนใหญ่ที่ว่า ถ้าได้เอาต้นไม้กระถางงามๆปลูกลงดิน เมื่อต้นไม้ได้หยั่งรากลงในพื้นที่กว้างๆก็น่าจะเติบโตสวยงามน่าชื่นใจกว่าตอนอยู่ในกระถางเป็นแน่แท้ เพราะความเจริญงอกงามของพืชทั้งหลายนั้น ขึ้นอยู่กับคุณภาพของดินหรือสารอาหารในวัสดุปลูก มากกว่าขนาดพื้นที่ปลูก เรียกว่า ต้องการคุณภาพมากกว่าปริมาณ เราจึงเห็นการปลูกผักหรือการทำสวนแนวใหม่ที่ไม่ต้องใช้ดินเลย แต่ต้นไม้ที่ปลูกเจริญงอกงามดีอย่างน่าทึ่ง ยกตัวอย่างเช่น การปลูกผักแบบไฮโดรโปนิคส์ หรือการปลูกไม้แขวนในกระถางเล็กๆ ที่มีพื้นที่โคนต้นแค่นิดเดียว แต่สามารถแตกกิ่งก้านใบแผ่ขยายต้นได้อย่างกว้างขวาง
ไอเดียการสร้าง Pocket Garden ขนาดจิ๋ว ที่สามารถพกพาไปไหนได้จริงๆอย่างสวนในขวดแก้ว (Terrarium) กำลังเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เพราะถ้าออกแบบดีๆ สวนจิ๋วนั้นสามารถอยู่ได้เองโดยไม่ต้องรดน้ำเลย อาศัยเพียงความชื้นในอากาศ การกลั่นตัวของหยดน้ำเมื่ออุณหภูมิและความชื้นของพื้นที่มีความเปลี่ยนแปลง โดยจัดปลูกไม้ขนาดเล็ก มอส หรือตะไคร่น้ำ สร้างขึ้นเป็นรูปทรงสวนตามจินตนาการแบบย่อส่วน เป็นการจำลองระบบนิเวศน์ให้มาอยู่ในภาชนะที่เป็นกระจกใส รูปทรงอะไรก็ได้ที่ชอบ มีทั้งแบบเปิด และแบบปิด ซึ่งต้นไม้ส่วนมากที่จะเอามาจัดแต่งในโหลแก้ว มักจะเป็นไม้เขตร้อนชื้น เพราะไม้ชนิดนี้จะใช้ความชื้นสูง ฉะนั้นควรต้องเลือกสวนขวดระบบปิด เพื่อรักษาความชื้นให้สมดุล นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงสวนไม้น้ำในโหล หรือในตู้กระจก ซึ่งเหมาะกับการสร้างสวนในพื้นที่เล็ก และไม่ต้องการการดูแลรดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ยบ่อยๆเหมือนสวนขนาดใหญ่ เพราะต้องการควบคุมให้ต้นไม้ไม่โตเสียทรงเร็วเกินไป จะฝึกหาไม้จิ๋วมาจัดเองหรือซื้อที่เขาปลูกไว้สวยๆแล้วมาเลี้ยงต่อก็ตามแต่จะพอใจ
เสน่ห์ของการทำ Pocket Garden ก็คือสามารถเนรมิตบรรยากาศสวนให้เกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องรอนาน สามารถเคลื่อนย้าย เปลี่ยนรูปแบบ ดัดแปลงได้โดยสะดวก อีกทั้งยังไม่มีกฎกติกาตายตัวว่า จะต้องทำให้ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นสวนสไตล์ไหน ขอเพียงเหมาะกับพื้นที่และถูกใจคนปลูก ก็ทำให้มีความสุขได้ง่ายขึ้น เหมาะกับยุคแห่งความเร่งรีบ และคนรุ่นใหม่ที่รักอิสระ และรักความเปลี่ยนแปลงแบบรวดเร็วทันใจ
Beautiful garden does not have to be expensive or take too much time. With a creative idea, it took little more than pea gravel, vertical pocket gardens, concrete planter bowls and a few concrete benches to convert abandoned lot or plain ground into an open green, inviting area in no time.
A pocket garden can be a colorful small-space garden looks great in partially shady spots and is easy to maintain such as; a garden in a bottle (Terrarium), a garden in a glass box, in your small deck area, on the rooftop, in a planter, hanging on the wall, a vertical garden or a garden in a corner of your open living area. With the main concept of pocket garden that easy and quick to do by yourself and you don’t have to do planting on the ground. It becomes the most flexible and portable garden that everyone would love and be able to enjoy anywhere we want.
