การสร้างบ้านแต่ละหลัง นอกจากจะมีการออกแบบที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันแล้ว การเลือกใช้วัสดุในการสร้างบ้านให้มีความเหมาะสม คงทน และสวยงามก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ เราจึงควรที่จะเลือกวิธีการดูแลรักษาและทำความสะอาดอย่างเหมาะสมกับวัสดุประเภทต่างๆ ด้วย
แม้ว่าจะมีวัสดุมากมายถูกนำมาใช้ในการสร้างบ้าน แต่ LivingDD จะขอรวบรวมวัสดุยอดนิยม พร้อมการทำความสะอาดอย่างถูกวิธีมาให้เลือกใช้ได้เหมาะสมกับพื้นบ้านของคุณกัน
วัสดุที่จำพวก ไม้ จะทำให้เกิดความรู้สึกอบอุ่น อีกทั้งยังช่วยให้บ้านดูสวยงาม มีราคา ส่วนใหญ่จะเป็นไม้เนื้อแข็ง พวกไม้มะค่า ไม้แดง ไม้ประดู่ หรือไม่เนื้ออ่อน อย่างเช่น ไม้สัก เป็นต้น
การทำความสะอาดพื้นไม้นอกจากจะต้องปัดฝุ่นจากพื้นแล้ว ก็ควรใช้พรมถูพื้นผสมน้ำยาทำความสะอาดแบบเจือจาง และเช็ดทำความสะอาดให้แห้งโดยเร็ว เพื่อป้องกันการเป็นคราบบนผิวไม้ คุณสามารถใช้น้ำยาเคลือบไม้ชนิดถาวรเคลือบเพื่อป้องกันผิวไม้จากหยดน้ำและคราบสกปรกต่างๆ นอกจากน้ำยาเคลือบไม้จะช่วยให้ทำความสะอาดง่ายขึ้นแล้ว ยังช่วยให้พื้นไม้มีความแวววาวสวยงามอีกด้วย
ไม้ชิ้นเล็กๆ ที่ทำขึ้นมาเพื่อทดแทนการใช้ไม้จริงในการสร้างบ้าน อย่าง ไม้ปาร์เก้ ราคาจะถูกกว่า และสามารถเลือกรูปแบบลวดลายต่างๆ ได้ และสามารถใช้น้ำยาขัดเพื่อเพิ่มความเงางามได้ด้วย
ในการทำความสะอาดต้องระวังการใช้ไม้ถูกพื้นที่เปียกจนเกินไป เพราะจะทำให้รอยต่อระหว่างไม้มีความสกปรกมากขึ้น ควรใช้ผ้าหมาดๆ เช็ดแทน หากจำเป็นต้องใช้น้ำยาถูพื้นก็ควรเลือกน้ำยาถูสำหรับพื้นไม้โดยเฉพาะ แต่หากพื้นมีรอยเปื้อนก็เพียงฉีดน้ำลงบนพื้น แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดโดยทันที
วัสดุที่ใช้ทดแทนไม้จริงและไม้ปาร์เก้ที่มีราคาถูกว่า อย่าง ไม้ลามิเนต จะทนทานต่อรอยขูดขีดหรือแรงกดกระแทกได้ดีกว่า ติดตั้งง่าย และสามารถเลือกสีผิวหน้าให้เป็นลวดลายที่ต้องการได้ อีกทั้งยังทนความร้อน ทนต่อสารเคมี และไม่ติดไฟนอกจากนี้ไม้ลามิเนตยังไม่เก็บฝุ่นและเชื้อโรค จึงทำความสะอาดได้ง่าย แต่ไม้ลามิเนตจะมีอายุการใช้งานที่สั้นเพียง 10-15 ปีเท่านั้น และไม่สามารถทำการขัดสีผิวหน้าออกแล้วย้อมสีใหม่เหมือนกับไม้จริงได้
การดูแลรักษาพื้นไม้ลามิเนตนั้นเพียงผสมน้ำยาทำความสะอาดเพียงเล็กน้อย หรือถ้าพื้นไม้ลามิเนตเกิดรอยเปื้อนจากสารเคมีก็สามารถใช้ผ้าชุบน้ำมันสนหรือทินเนอร์เช็ดออกก่อนใช้น้ำยาทำความสะอาดอีกครั้ง ข้อควรระวังคือ อย่าปล่อยให้มีน้ำท่วมขังบนพื้นไม้ลามิเนตเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้แผ่นไม้เกิดการชำรุดได้
วัสดุที่มีโครงสร้างแบบอิฐ อย่าง กระเบื้องเซรามิกและกระเบื้องโมเสก ถูกออกแบบมาเพื่อให้รองรับน้ำหนักได้ดี มีสีสัน ผิวสัมผัส และมีลวดลายให้เลือกมากมาย มีความแข็งแรงทนทาน
พื้นประเภทนี้ควรดูแลระหว่างรอยต่อเป็นพิเศษ ส่วนการทำความสะอาดเพียงใช้แปรงขนอ่อนชุบน้ำสบู่หรือผงซักฟอกขัด ถ้ามีเชื้อราควรทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
คอนกรีต เป็นพื้นที่ก่ออิฐ เทปูน ปูหินธรรมชาติ สามารถดูแลได้โดยการใช้ไม้ถูพื้นเช็ดทำความสะอาดเดือนละครั้ง แต่ถ้าเป็นพื้นที่ผ่านการใช้งานหรือขาดการดูแลรักษามานาน ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดแบบเข้มข้นขจัดคราบสกปรกแล้วค่อยลงน้ำยาสำหรับเคลือบผิวคอนกรีต เพื่อช่วยลดการสึกกร่อนของพื้นผิว
วัสดุที่สามารถสร้างลวดลายสีสันได้หลายรูปแบบอีกชนิหนึ่งก็คือ หินขัด ซึ่งมีความแข็งแรง ทนทานมาก ดูแลรักษาง่าย มีลวดลายในตัว ราคาไม่แพง ไม่ค่อยสกปรก จึงเหมาะสำหรับใช้ทั้งภายในและภายนอกบ้าน
พื้นหินขัด ควรทำความสะอาดทุกวัน และลงน้ำมันเคลือบผิวเดือนละครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้คราบสกปรกฝังแน่น ที่สำคัญควรเลี่ยงน้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์เป็นกรด เพราะจะทำให้ผิวหน้าเสียหายได้
หินธรรมชาติ อย่าง หินอ่อน ก็เป็นวัสดุที่นิยมใช้กันมาก เพราะมีความแข็งแรงทนทาน ดูแลรักษาง่าย ให้ความประณีตสวยงาม ดูหรูหรา แต่อาจเกิดรอยขูดขีดได้ง่าย
การดูแลรักษาก็เพียงแต่ให้ระมัดระวังการเกิดรอย ถ้าต้องการให้พื้นเงางามก็เพียงใช้แว็กซ์ถูกพื้น พร้อมเครื่องขัดไฟฟ้า หรือใช้ผ้าชุบน้ำมันก๊าดถูบางๆ ทั่วผิวหน้าหินอ่อน แล้วเช็ดด้วยผ้าสะอาดอีกครั้ง
แม้ว่าจะมีวัสดุที่เป็นหินธรรมชาติให้เลือกมากมาย แต่ หินแกรนิต เป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานมากกว่าหินชนิดอื่น สามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกบ้าน
การดูแลรักษาพื้นผิวของหินแกรนิตควรหลีกเลี่ยงการใช้ผงซักผอก น้ำยาขัดห้องน้ำ หรือน้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์เป็นกรด รวมทั้งน้ำมันก๊าดหรือน้ำมันมะกอก เพราะจะทำให้ผิวของหินด้านหมดสภาพความเงา หากเกิดคราบสกปรกให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเฉพาะประเภทของการกำจัดคราบเหล่านั้น หลังจากการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแล้ว ควรใช้น้ำยาขัดเงาเป็นแว็กซ์ชนิดน้ำ (Liquid Wax)
สิ่งที่สำคัญของการดูแลรักษาพื้นหินแกรนิตก็คือ หมั่นดูแลทำความสะอาด โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับหินแกรนิตโดยเฉพาะ เพื่อให้หินแกรนิตคงทนและมีความสวยงามเสมอ
หากต้องการปูพื้นด้วยวัสดุที่นิ่ม คุณอาจเลือกใช้ พรม ซึ่งมีให้เลือกหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ขนสัตว์ ไนล่อน ใยสังเคราะห์ พรมติดตั้งง่าย มีทั้งแบบเป็นผืนใหญ่และแผ่นเล็กที่สะดวกต่อการซ่อมแซม แต่ก็ดูแลรักษายาก เพราะพรมติดไฟง่าย เก็บความชื้น สกปรกง่าย และมีอายุการใช้งานสั้น
หากคุณใช้พื้นพรมในบ้านก็ควรดูดฝุ่นและกำจัดกลิ่นพรมอย่างสม่ำเสมอ การใช้ผงเบกกิ้งโซดา (Baking Soda) โรยให้ทั่วพื้นพรม ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วจึงดูดฝุ่นออก จะทำให้พรมปลอดจากกลิ่นได้ สิ่งสำคัญคือ ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีฤทธิ์เป็นด่างกับพรมขนสัตว์ เพราะอาจจะทำให้เส้นใยเสียหายและสีย้อมซีดจางลง
วัสดุที่เรียกว่าราคาย่อมเยาว์สุด แต่ยังสามารถคงความสวยงามให้บ้านคุณได้ด้วยสีสันและรูปแบบที่หลากหลาย คือ เสื่อน้ำมันและกระเบื้องยาง เป็นวัสดุที่ทำจากยางพีวีซี ราคาประหยัด และให้สัมผัสที่นุ่มนวลกว่า ติดตั้งและปรับเปลี่ยนง่าย แต่พื้นผิวยางสามารถสึกหรอและเป็นรอยขีดข่วนง่าย หลุดล่อนง่าย แม้ซ่อมแซมได้ง่าย แต่อายุการใช้งานก็สั้น
เสื่อน้ำมันและกระเบื้องยาง ไม่ควรการใช้ผลิตภัณฑ์แอมโมเนียและน้ำยาขัดพื้น เพราะจะทำให้พื้นผิวเสื่อด้าน ควรใช้ไม้ถูพื้นกับน้ำและผงซักฟอกแล้วล้างออก หากเกิดคราบสกปรกจากอาหาร ให้ใช้ผ้าไนลอนเนื้อละเอียดกับน้ำยาซักฟอกเข้มข้น หรือน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์เช็ดออก แต่หากเกิดรอยขูดขีด อาจใช้ยางลบดินสอ หรือเช็ดด้วยน้ำยาล้างจานเข้มข้น หลังจากนั้นจึงเช็ดออกด้วยผ้าหมาดอีกครั้ง
วัสดุแต่ละชนิดล้วนมีข้อดี ข้อเสีย และความสวยงามแตกต่างกัน ไม่ว่าคุณจะใช้วัสดุชนิดไหนในการก่อสร้างบ้าน แต่ถ้าเราเลือกวิธีที่จะดูแลรักษาได้อย่างเหมาะสมแล้ว วัสดุเหล่านั้นก็จะยังคงสร้างความสวยงามให้บ้านของคุณได้อย่างยาวนาน
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.thaiwatsadu.com, www.excelfloor.com, www.yhutai.com