ความสุขในครอบครัวเป็นพื้นฐานสำหรับความสุขและความสำเร็จในชีวิตปัจจุบันคนส่วนมากมักไม่ได้ใช้เวลาคุณภาพกับครอบครัว ทั้งที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันวันละหลายชั่วโมง การมีช่วงเวลาดีๆร่วมกันจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก บางคนอาจคิดว่าเวลาคุณภาพ หรือที่นิยมเรียกทับศัพท์ว่า Quality Time ดังกล่าวนั้นคือการไปท่องเที่ยวด้วยกันในโอกาสพิเศษ ทั้งที่ความจริงแล้ว วันธรรมดาๆในบ้านก็สามารถสร้างความทรงจำที่ดีครอบครัวได้ เพียงเรารู้จักสร้างบรรยากาศที่ดี ด้วยการบริหารพื้นที่ส่วนกลางที่คนในบ้านใช้ร่วมกันให้เป็นพื้นที่แห่งความสุข
พื้นที่ส่วนกลางในบ้านทั่วไป ได้แก่ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องกินข้าว หรือชานพักผ่อน รวมไปถึงสวนซึ่งเป็นบริเวณที่คนในครอบครัวควรจะได้ผ่อนคลาย มีปฏิสัมพันธ์อันดีต่อกันเมื่อว่างเว้นจากภารกิจต่างๆแต่ในครอบครัวส่วนใหญ่ซึ่งประกอบด้วยคนหลายรุ่นหลากนิสัยนั้น การใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกันนานๆ แต่ไม่มีบรรยากาศที่ดีหรือกิจกรรมที่สร้างสรรค์ให้ทำร่วมกัน อาจกลายเป็นพื้นที่สำหรับการถูกบีบบังคับเผชิญหน้ากันในรูปแบบที่ไม่น่าประทับใจอาจนำมาสู่การปฏิสัมพันธ์ในทางลบ เป็นต้นว่า การสั่งสอนหรือติเตียนที่อาจจะมาจากความหวังดีของผู้ใหญ่ที่มีต่อเด็ก ที่อาจลามไปถึงการบ่นด่าหรือทะเลาะกัน การจัดพื้นที่ส่วนกลางที่มีคุณภาพให้ทุกคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขโดยไม่รบกวน หรือขัดหูขัดตากันจนเกินไป จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก
ขนาดพื้นที่อันเหมาะสม– คำกล่าวที่ว่า คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก อาจจะจริงแต่ไม่จริงทั้งหมด เพราะถ้าต้องทนคับที่ไปนานๆก็จะนำมาซึ่งความคับใจได้ เราก็ควรจะวางแผนขนาดพื้นที่อันเหมาะสมที่คนจะสามารถอยู่ร่วมกันโดยไม่รู้สึกอึดอัดออกมาเป็นลำดับแรกอย่างน้อยที่สุด พื้นที่ส่วนกลางที่ว่านี้ควรมีที่นั่งพอสำหรับทุกคน อาจฟังดูตลก แต่โซฟาที่ซื้อมาพอสำหรับนั่ง 2 คนเมื่อลูกยังแบเบาะนั้นอาจเป็นบ่อเกิดของการถกเถียงในวันที่ลูกน้อยซึ่งกลายมาเป็นวัยรุ่นตัวโตต้องมาแย่งที่นั่งกับพ่อแม่บนโซฟา
มุมแห่งความสุขของแต่ละคน– แม้จะมีพื้นที่มากพอสำหรับทุกคน มีโซฟาให้นั่งหน้าทีวีครบแล้วแต่ละคนก็ควรจะมีมุมของตัวเองที่จะสามารถ ‘อยู่คนเดียวด้วยกัน’เหมือนในเพลงของพี่เบิร์ดได้ เพราะคนเราต่อให้รักกันแค่ไหนก็คงไม่ได้อยากทำกิจกรรมร่วมกันตลอดเวลา ยิ่งต่างวัยต่างสมัยก็จะยิ่งมีพฤติกรรมต่างกันไป ต้องมีพื้นที่ อุปกรณ์ เฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นต่างกัน เช่น คุณยายก็อาจจะอยากจะนั่งๆนอนๆฟังวิทยุ ก็ต้องมีเตียงมีตั่งวางไว้ให้ในจุดที่แสงไม่แยงตา พ่อแม่ซึ่งเป็นคนวัยทำงานก็อาจจะอยากอ่านหนังสือก็ควรที่จะมีโคมไฟตั้งไว้ ลูกๆวัยรุ่นก็อาจจะอยากนั่งเล่นเกมเงียบๆ หรือนอนเล่นใส่หูฟังเพลงไม่รบกวนใครซึ่งก็เป็นเรื่องที่แต่ละบ้านต้องจัดสรรให้รองรับพฤติกรรมของทุกคนนอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงการทำความสะอาด การระบายอากาศ และเสียง หากมีกิจกรรมมุมใดที่ใช้เสียง ก็ควรทำให้แน่ใจว่าจะไม่ไปรบกวนมุมอื่น
บรรยากาศและการตกแต่ง- โดยทั่วไปคนเราจะตกแต่งห้องส่วนตัวตามความชอบของตนเอง และตกแต่งห้องที่ใช้ร่วมกันตามความพอใจของเจ้าของบ้าน ซึ่งก็สมเหตุสมผลดี แต่หากเป้าหมายเจ้าของบ้านคือการให้ทุกคนได้ใช้พื้นที่ส่วนรวมนี้ร่วมกันจริงๆก็ควรจะคำนึงถึงการใช้สอยด้วยกันเป็นอย่างแรก ให้ตอบโจทย์การใช้งานตามมาตรฐาน เช่น ห้องโฮมเธียเตอร์ควรใช้สีโทนมืด ห้องรับประทานอาหารควรใช้สีโทนสว่าง แม้รสนิยมส่วนตัวของคนที่เป็นเจ้าของบ้านตัวจริงหรือเจ้าของเงินอาจจะพิสดารแค่ไหน ถ้าหวังให้คนอื่นอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ก็ควรลดระดับมาหาความพอใจที่อยู่ตรงกลางจะดีที่สุด ส่วนการตกแต่งแบบ ‘ตามใจฉัน’ นั้นก็ค่อยไปจัดเต็มในห้องส่วนตัวของใครของมัน
การเคารพต่อพื้นที่ส่วนรวม- เมื่อเราทั้งวางแผนการใช้งานและตกแต่งเรียบร้อยแล้ว อีกสิ่งที่ต้องทำก็คือ การเคารพความเป็นส่วนรวม ในพื้นที่ส่วนกลางนั้นไม่ควรมีของส่วนตัวของใครวางอยู่ (เว้นแต่ว่าจะเป็นมุมของเขา) เช่นในห้องน้ำรวม ก็ไม่ควรมีฟันปลอมของคุณตาคุณยายแช่น้ำอยู่ และในทางกลับกัน ของส่วนกลาง เช่น โถคุกกี้ หรือรีโมททีวี ก็ไม่ควรถูกนำไปเก็บไว้ในห้องส่วนตัวเช่นเดียวกัน
รายละเอียดใหญ่น้อยที่กล่าวมานี้ คือวิธีง่ายๆในการบริหารพื้นที่ส่วนกลางอย่างมีประสิทธิภาพ ที่จะช่วยให้คนในบ้านมาใช้เวลาคุณภาพร่วมกันได้อย่างลงตัว หลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่จะเกิดจากการมาอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวไปได้เป็นส่วนใหญ่ ที่เหลือให้เราทำกันก็คงจะเป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีต่อพื้นที่ส่วนรวมนี้ ให้เป็นบริเวณที่แต่ละคนได้มีความสุข หัวเราะ เกิดปฏิสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์ อย่าให้ common area กลายเป็น shooting area ที่สมาชิกในครอบครัวต้องหลบเลี่ยง หรือคอยสะดุ้งทุกครั้งที่ผ่านเข้ามา ว่าวันนี้ใครจะถูกต่อว่า หรือทะเลาะกันเรื่องอะไร จนกลายเป็นเหตุแห่งความห่างเหิน หรือบางครั้งผู้สูงอายุในบ้าน ก็อาจรู้สึกว่า ตัวเองเป็นส่วนเกินที่ไม่พึงปรารถนาในพื้นที่ส่วนกลาง เพราะขาดความสะดวกสบายหรือขาดกิจกรรมที่เหมาะสมมารองรับการใช้พื้นที่ร่วมกันกับสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ หากมีการจัดการที่ดีและใส่ใจให้พื้นที่ส่วนกลาง มีความเป็นกลางที่ชวนให้เข้ามาอยู่ด้วยกันจริงๆ เพียงเท่านี้ บ้านของเราก็จะเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่ดี มีความทรงจำดีๆที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเราทุกคน เป็นความสุขของครอบครัวที่เป็นพื้นฐานให้กับทุกความสำเร็จในชีวิตนั่นเอง
Common area plays a major part in a family’s relationship. It is important that each family member of different generations to have space allocated for him or her in the common area.Keeping in mind that the perfect balance between spending good time and having good interaction with the family, is the key success of common area management.
An effective common area should have enough space for everyone’s activity and interest. Besides the quantity of space, the quality of space is even more important. Every family member of all ages has different needs for his or her activities. Your teenager son might want to play games when your 7 years old daughter wants to play with her doll and your mother-in-law want to listen to money channel radio. The perfect common area is where all family members can do what they enjoy differently for their leisure time and not disturbing other people’s peace.
Text: พิมาดา วีร์
