ในช่วงฤดูกาลซัมเมอร์ที่หลายคนมีโปรแกรมไปเที่ยวพักผ่อน แน่นอนว่าหนึ่งในความกังวลเวลาที่ต้องทิ้งบ้านก็คือเรื่องสวน หากไปเที่ยวกลับมาแล้วเจอสวนที่เคยสวยสดงดงามต้องแห้งโกร๋น ย่อมไม่ต่างกับฝันร้าย และในช่วงเวลาแบบนี้ ก็คงทำให้ใครๆฝันถึงสวนที่ไม่ต้องคอยรดน้ำเยอะ ต้นไม้ที่ทนแล้งได้ดี พระเอกแถวหน้าของสวนสวยเก๋แห่งฤดูร้อนอันแห้งแล้ง ก็คงไม่มีใครโดดเด่นไปกว่า ‘ตะบองเพชร’ พันธุ์พืชสุดทรหดจากทะเลทราย
การจัดสวนตะบองเพชรจะว่ายากก็ไม่ยาก แต่จะว่าง่ายก็ไม่เชิง เพราะไม่ว่าจะจัดสวนชนิดไหนก็ต้องอาศัยการทำความเข้าใจในพันธุ์ไม้ทั้งสิ้น ก่อนอื่นขอแนะนำว่า บ้านที่เหมาะกับการจัดสวนตะบองเพชร คือบ้านที่ไม่มีเด็กเล็ก เพราะตะบองเพชรหลายสายพันธุ์มีหนามที่อาจเป็นอันตราย แต่ถ้ามั่นใจว่าลูกหลานของคุณคงไม่ซนทะเล่อทะล่าไปวิ่งชนต้นไม้ให้ตัวเองบาดเจ็บแน่…ก็ลองดู อาจจะติดใจ เพราะตะบองเพชรเป็นพืชที่มีลักษณะน่าทึ่ง ทั้งความสวยอันหลากหลายจากรูปทรงแปลกตาจากต่างสายพันธุ์ สีสันของลำต้น และดอกสวยประหลาดสีสดใสที่นานๆ กว่าจะโผล่มาให้เห็นเป็นบุญตา ไม่ว่าฤดูกาลไหนๆ ก็ไม่มีใบร่วงให้กวาด รวมถึงวิถีการดำรงอยู่ที่เรียบง่าย ไม่เรียกร้อง สงบนิ่ง และเจียมตัว ยืนหยัดอดทนต่อสภาพแวดล้อมอันโหดร้ายได้อย่างทรนง ดูๆไปก็ช่างเป็นชีวิตที่งามสง่า ท้าทาย และเป็นแรงบันดาลใจให้เราอยากจะลุกขึ้นมายืนหยัดสู้ชีวิตอย่างเข็มแข็งเหมือนกับตะบองเพชร
คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นกระบองเพชรไว้ประจำบ้านจะเกิดความเป็นสิริมงคล ถึงขนาดมีคำกล่าวว่า ถ้าผู้ใดปลูกต้นกระบองเพชรให้เกิดดอกได้มากและสวยงาม แสดงว่าผู้นั้นจะมีโชคลาภ ดังนั้นคนไทยโบราณจึงถือว่าตะบองเพชรเป็นไม้เสี่ยงทายชนิดหนึ่ง อีกทั้งยังเชื่ออีกว่ายังสามารถป้องกันศัตรูจากภายนอกได้อีกด้วย เพราะต้นกระบองเพชรมีหนามและความคงทนแข็งแรง ตอบสนองประโยช์ใช้สอยในด้านความปลอดภัย คนไทยแต่ก่อนจึงนิยมปลูกตามแนวรั้วบ้าน เพื่อให้หนามตะบองเพชรทำหน้าที่คุ้มกัน อีกทั้งเชื่อว่าจะเป็นที่กลัวเกรงของศัตรูภายนอก ซึ่งการปลูกไม้มงคลชนิดนี้ให้ถูกหลักความเชื่อแบบไทย ก็ต้องเข้าใจตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูกเพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัยด้วย โดยถือกันว่าควรปลูกต้นกระบองเพชรไว้ทางทิศตะวันตก และผู้ปลูกควรปลูกในวันเสาร์ ตามที่โบราณเขาเชื่อกันว่าการปลูกไม้เพื่อเอาคุณทั่วไปให้ปลูกในวันเสาร์ ซึ่งก็ฟังดูสมเหตุสมผลดีสำหรับยุคนี้ เพราะวันอื่นเราต้องไปทำงาน คงไม่มีเวลาว่างปลูกอะไรเป็นแน่แท้
แม้ว้าเราจะเห็นคนปลูกตะบองเพชรกันดาดดื่น แต่ต้นกำเนิดของตะบองเพชรครึ่งหนึ่งมาจากดินแดนที่แห้งแล้ง เป็นตะบองเพชรสายพันธุ์ทะเลทราย ซึ่งมักจะมีหนามแทนใบ กับอีกพวกหนึ่งเป็นตะบองเพชรสายพันธุ์ที่มาจากป่าดิบชื้น พวกนี้จะไม่มีหนาม มีลักษณะเป็นไม้อวบน้ำหน้าตาประหลาด สำหรับตะบองเพชรทะเลทรายนั้นสามารถยืนต้นอยู่ได้แม้อยู่ในทะเลทรายที่แสนกันดาร โดยไม่ตายแม้ขาดน้ำหลายเดือน เพราะทุกครั้งที่มีฝนตกและได้รับน้ำมาในปริมาณมากแบบนานทีปีหน ต้นกระบองเพชรก็จะเก็บน้ำไว้ในลำต้นเพื่อใช้เลี้ยงชีวิตในระยะยาว โดยมีการเปลี่ยนใบเป็นหนามเพื่อลดการคายน้ำ ชนเผ่าเร่ร่อนหรือนักเดินทางในทะเลทรายรอดตายจากความร้อนแห้งแล้งก็ด้วยน้ำที่อยู่ในตะบองเพชรนี้เอง นอกจากนี้ยังพบตะบองเพชรบางชนิดในป่า หรือตามสภาพแวดล้อมทั่วไป แต่มีลักษณะแตกต่างจากตะบองเพชรที่พบในทะเลทรายจนแทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นพืชชนิดเดียวกัน แตกสายพันธุ์ออกไปมากมายและมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามหน้าตาและถิ่นกำเนิดนับเป็นร้อยๆชนิด ชื่อที่เราพอจะคุ้นๆกันก็เช่น โบตั๋น ท้าวพันตา แคคตัส ฯลฯ นอกจากนี้สรรพคุณทางสมุนไพรของกระบองเพชร ยังสามารถใช้บรรเทาโรคบิดได้ สารสกัดกระบองเพชรช่วยลดอาการเมาค้าง
การปลูกตะบองเพชรแบ่งเป็น 2 วิธี คือ (1) การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายในอาคารและภายนอกอาคาร ส่วนมากจะนิยมต้นขนาดเล็กเพื่อตั้งโชว์ ใช้กระถางทรงและขนาดต่างกันแล้วแต่ชนิดพันธุ์ ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ทรายหรือดินร่วน อัตรา 1:1 ผสมดินปลูก (2) การปลูกในแปลงปลูก หรือปลูกลงดินกลางแจ้ง ต้องเป็นชนิดพันธุ์ที่ค่อนข้างใหญ่ แข็งแรง ขนาดหลุมปลูก 30 x 30 x 30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1:3 ผสมดินปลูก
การทำสวนตะบองเพชรแบบปลูกลงดิน ควรเริ่มจากการกำหนดความลาดชันของพื้นที่ปลูกให้มีความชันพอควร ทำให้เป็นเนินเอาไว้ เพื่อให้ระบายน้ำสะดวก รากจะได้ไม่เน่า ส่วนในเรื่องการออกแบบ-สไตล์การจัดสวนตะบองเพชรไม่มีข้อบังคับตายตัว สามารถจัดได้ตามจินตนาการของผู้ปลูก แต่ก็ควรศึกษาหาความรู้ด้านองค์ประกอบศิลป์ ในการคัดสี ขนาด สัดส่วน มุมมอง ผิวสัมผัส รูปทรง ให้ออกมาดูสวยงาม โดยพึงสังวรณ์ว่า การจัดสวนเป็นศิลปะ 4 มิติ ที่มีเรื่องของเวลามาเป็นปัจจัยหลักของการเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตาของสวนให้ผันแปรได้ตลอดเวลาเกินความคาดหมาย เช่น ขนาดต้นที่จะโตขึ้น สีและรูปทรงที่จะเปลี่ยน การออกดอก รวมไปถึงสภาพแสงและความชื้นที่มีผลโดยตรงต่อความเจริญเติบโต
การดูแลรักษาต้นตะบองเพชรนั้นแม้จะไม่ต้องรดน้ำบ่อย แต่ก็ต้องเพียงพอ และสม่ำเสมอ รวมถึงแสงสว่างก็ต้องเหมาะสม บางชนิดอาจปลูกในอาคารหรือในที่มีแสงรำไรได้ แต่ถ้าได้รับแสงพอเหมาะก็จะเติบโตได้ดีกว่า และด้วยความที่เป็นพืชทะเลทราย มันจึงชอบดินร่วนปนทรายที่มีความชื้นปานกลาง โดยบำรุงต้นให้สมบูรณ์ด้วยการใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักบ้าง ปีละ 5-6 ครั้ง ก็จะได้ต้นที่โตสวยงามและอาจออกดอกมาให้ชื่นใจได้
โดยปกติพวกแมลงศัตรูพืชทั้งหลายจะไม่ค่อยสนใจมาทำร้ายตะบองเพชรนัก แต่มีโรคของตะบองเพชรที่ต้องระวังก็คือโรครากเน่า ทำให้ตะบองเพชรเหี่ยวเฉา แคระแกร็น แต่ก็ยังพอรักษาได้ด้วยการตัดส่วนที่เป็นโรคทิ้งไป หรือถ้าทนไม่ไหวก็รื้อปลูกใหม่
การเริ่มต้นปลูกตะบองเพชรสำหรับมือใหม่จะนิยมไปซื้อจากร้านต้นไม้มาปลูก แต่สำหรับคนที่รักจริงหรือมือเก๋า เขาจะนิยมเพาะเมล็ดปลูกเองเลย บ้างก็ปักชำโดยเอากิ่งจากต้นแม่มาปลูกลงดิน ถึงจะโตช้า แต่คนปลูกก็มีความสุขที่ได้รอคอยและเฝ้ามองการเจริญเติบโตที่ค่อยเป็นค่อยไป ไม่รีบร้อนเหมือนชีวิตคนเราที่มีแต่ความร้อนรน ว่ากันว่า การเฝ้ามองความเจริญเติบโตช้าๆของตะบองเพชรนั้น เป็นการยืดระยะเวลาความสุขให้ยืนยาวจากการรอคอยด้วยความหวัง เช่นเดียวกับความสุขของนักเดินทางที่ไม่ใช่แค่เพียงการพิชิตเป้าหมายเป็นหลัก แต่เป็นความสุขจากการได้เปลี่ยนประสบการณ์ และรื่นรมย์กับทัศนียภาพสองข้างทางที่เดินผ่าน การปลูกตะบองเพชรมีความสุขเช่นเดียวกัน และดอกของตะบองเพชรที่เริ่มผลิบานก็เปรียบได้กับจุดหมายแต่ละจุดของนักเดินทาง ที่จะได้สัมผัสกับความสำเร็จ ความอิ่มเอิบใจ เติมพลังให้เต็มเปี่ยมสำหรับการเดินก้าวต่อๆไปอย่างมุ่งมั่น
Cacti come in unusual shapes, sizes, textures and flower colors. Most have abandoned leaves and unusual body shapes to prevent loss of water. Some are ribbed or segmented and they may be covered with decorative spines, bristles or hairs.
There are two groups of cacti – the desert ones (usually covered in spines), and the jungle or rainforest cacti (often without spines and most are epiphytes). There are some 200 genera and several thousand species. They are generally small but others, such as the old man cactus, can grow to 3m tall. Cacti are flowering plants and their shapes can be spherical, pillar, cushion or candelabra.
Cacti are succulents (water storing plants). There are other succulents as well, but not all succulents are cacti. The rainfall in the regions they naturally occur is not frequent, so they adapted to be able to survive long periods of dryness. So, 1st important rule: Cacti would not be the most happy plants if you don’t water them at all, but they might die if you water them a lot (or as you water your other houseplants).
The first step in making a cactus garden is, of course, to plan it out. Scout out a location in your yard for your garden. The optimal place for a cactus garden is on hill, because this allows the garden bed to easily drain. You can still make a cactus garden if your yard is flat, you will just have to do more digging.
When you decide where you want your cactus garden, decide what size and shape you want. Use your imagination and be creative; you can have a circle, square, rectangle, semicircle, triangle, whatever you desire. Then mark the border of the garden onto the ground before you begin, this will make the digging much easier.
When planting your cacti, be creative in your design. You can plant the cacti in a pattern or randomly, however you choose. After you have finishing planting your cacti, your garden is complete.
Your cacti garden will need very little maintenance. No watering or irrigation is needed, the rainfall will be enough. Feeding your cacti with 10-10-10 fertilizer once a year in the spring is the only thing you will need to do.