ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ในบ้าน วันหนึ่งก็ต้องมีการเสื่อมสภาพลง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องโยนของเก่าเหล่านั้นทิ้งแล้วเปลี่ยนใหม่ เพราะปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นอาจเป็นปัญหาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แค่คุณลองสวมวิญญาณช่างมือสมัครเล่น แล้วทำตามคำแนะนำที่ LivingDD นำมาฝากก็น่าจะช่วยแก้ปัญหาได้บ้าง
ปัญหาที่พบเห็นบ่อยอันดับแรกๆ คือ “ก๊อกน้ำรั่ว” แม้ว่าจะคุณจะพยายามบิดหัวก๊อกสักเท่าไหร่ก็ยังคงมีน้ำหยดอยู่ ก่อนที่จะลงมือแก้ปัญหาหรือซ่อมอุปกรณ์ใดๆ ที่เกี่ยวกับน้ำ คุณไม่ควรลืมที่จะการปิดวาล์วน้ำให้สนิทเสียก่อน จากนั้นให้คุณลองใช้ไขควงหรือประแจหมุนข้อต่อบริเวณด้านล่างของก๊อกส่วนที่ติดกับท่อ ถ้ารู้สึกว่าหมุนแล้วตัวก๊อกกับข้อต่อท่อยังต่อกันไม่สนิท ให้คุณถอดก๊อกเก่าออกออก ลองตรวจเช็คแหวนยางที่อยู่บริเวณหัวก๊อก หากแหวนยางเสื่อมคุณก็แค่เปลี่ยนใหม่ แต่ถ้าหากการซื้อแหวนยางลำบาก คุณอาจจะนำเทปไปพันที่ปลายท่อประมาณ 3-4 รอบ จากนั้นจึงค่อยสวมหัวก๊อกกลับเข้าไป และหมุนดูอีกครั้ง หัวก๊อกจะต่อเชื่อมกับข้อต่อท่อได้สนิท ไม่มีน้ำหยดอีก
หากคุณมีปัญหา “หลอดไฟดับ” ให้ถอดหลอดไฟนั้นออกมาเช็คที่ขั้วหลอดไฟก่อนเป็นอันดับแรก เพราะอาจมีฝุ่นผงไปติดอยู่ทำให้กระแสไฟฟ้าไม่สามารถไหลผ่านไปได้ วิธีทำความสะอาดก็เพียงใช้ผ้าแห้งเช็ดออก แล้วจึงใส่หลอดไฟกลับเข้าไปที่เดิม ในบางครั้งก็อาจมีปัญหาที่ตัวสตาร์ทเตอร์ของหลอดไฟเสีย ซึ่งก็สามารถซื้อเปลี่ยนได้โดยง่าย แต่ถ้าบริเวณขั้วหลอดมีลักษณะคล้ายๆ เขม่าสีดำเกาะอยู่ เราแนะนำให้เปลี่ยนหลอดไฟใหม่ได้เลย
“สวิตซ์ หรือปลั๊กไฟเสีย” เป็นเรื่องที่พบได้บ่อยเช่นกัน อันดับแรกคุณควรใช้ไขควงหรือเครื่องวัดไฟเช็คกระแสไฟที่บริเวณนั้นก่อน หากมีไฟสีแดงเป็นประกายขึ้นที่ไขควงหรือเครื่องวัดไฟก็แสดงว่าสายไฟยังปกติอยู่ แต่ในกรณีที่ไม่มีประกายไฟใดๆ เกิดขึ้น อาจเป็นไปได้ว่าสายไฟนั้นมีการเสื่อมสภาพหรือฉีกขาด กรณีนี้เราแนะนำว่าให้ช่างไฟที่มีความเชี่ยวชาญมาแก้ไขให้จะปลอดภัยกว่า
เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ในบ้านที่มีบานพับ อย่างประตู หน้าต่าง ตู้ มักจะมีอาการ “น็อตหลวม” เนื่องจากแรงกระแทกเมื่อมีการเปิด-ปิด คุณสามารถถอดบานพับเหล่านั้นออกมา แล้วใส่เดือยไม้หรือหมุดไม้ลงไปในรู หากมีส่วนที่เหลือยื่นออกมาก็ให้ใช้ตัดออก จากนั้นก็ใช้สว่านเจาะรูเข้าไปใหม่ วิธีการนี้จะทำให้บานพับกลับมาใช้งานได้อย่างปกติและยังติดแน่นขึ้นด้วย
ห้องน้ำก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่มักพบปัญหา “ปั๊มถังชักโครกเสีย” ส่วนใหญ่จะเกิดจากยางซีลระหว่างท่อกับถังชักโครกเสื่อม หรือลูกลอยหัก ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้สามารถซื้อมาเปลี่ยนได้เองหากมีปัญหา แต่ก่อนจะเปลี่ยนต้องไม่ลืมว่าควรจะปิดวาล์วน้ำเสียก่อน
แต่ละวิธีที่ LivingDD ได้แนะนำไปนั้น เป็นการแก้ปัญหาด้วยวิธีการเบื้องต้นสำหรับคนที่อยากลองซ่อมแซมบ้านเองในจุดที่มีปัญหาเล็กๆ แม้ว่าวิธีการที่แนะนำไปนั้นจะทำได้ง่าย แต่ก็ควรมีความระมัดระวัง เพราะไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องน้ำ ไฟ หรืออุปกรณ์ เฟอร์นิเจอร์แบบใด ก็สามารถเกิดอุบัติเหตุได้ทั้งสิ้น ที่สำคัญคุณควรประเมินตนเองเสียก่อนว่าสามารถจัดการกับปัญหาเหล่านี้ด้วยตัวเองได้หรือไม่ เพราะการใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญมาดูแลจัดการให้น่าจะเป็นวิธีที่สะดวก ปลอดภัยที่สุด
ขอบคุณภาพประกอบจาก www.flickr.com