ห้องทำงาน (ตอนที่ 3)

ในฐานะคนทำงาน การจะมองหาออฟฟิศที่มีบรรยากาศดีๆ อยู่ในทำเลทอง สถานที่ออกแบบอย่างมีคุณภาพและสวยงามเหมาะแก่การทำงานนั้นดูจะเป็นเรื่องฝันๆ เพราะแค่จะหางานทำให้ได้ก็ยากเหลือทนแล้ว : )ทางออกสำหรับมนุษย์งานในการสร้างสรรค์ความสุขในชั่วโมงทำงานส่วนใหญ่จึงเป็นการดูแลพื้นที่ใน work station ของตนเอง สำหรับคนที่ไม่ได้เปิดออฟฟิศเอง หรือมีตำแหน่งใหญ่โตขนาดที่สามารถชี้นิ้วเลือกห้องทำงานได้ตามชอบใจ ซึ่งก็หมายถึงบริเวณโต๊ะทำงาน หรืออย่างมากก็ในแผนก ให้มีลักษณะที่ดี มีความสะดวกสบายและเหมาะกับลักษณะของงาน

ขนาดพื้นที่ทำงานสำหรับ Working station ทั่วไปที่มีอุปกรณ์สำนักงานชิ้นหลักๆ ประกอบด้วย โต๊ะทำงาน เก้าอี้ ชั้นวาง และมีเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหนึ่งเครื่อง หรืออาจจะมีโทรศัพท์ประจำโต๊ะด้วย ควรมีที่ทางให้ขยับแข้งขยับขาได้สบายๆ ไม่น่าจะน้อยกว่า 3.50 ตารางเมตร มีแสงสว่างที่เพียงพอ มีช่องเปิดให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ด้านนอกได้บ้าง (ถ้าโชคดี) มีการระบายอากาศที่ดี ไม่อยู่ในซอกมุมอับ และอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม คือประมาณ 24-25 องศาเซลเซียส ไม่ร้อนและไม่หนาวจนถึงขั้นต้องใส่แจ็คเก็ต และมีพื้นที่สำหรับจัดวางข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นอย่างเพียงพอ ช่วยให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย

การจัดวางชุดโต๊ะทำงานแผนกที่มีการทำงานร่วมกันหลายคน ควรคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวและความมีสมาธิในการทำงานของพนักงานแต่ละคน อาจใช้การกั้นขอบเขตระหว่างโต๊ะด้วยผนังเบาหรือ partition ซึ่งมีทั้งที่เป็นแบบสำเร็จรูป มีวางขายตามร้านเฟอร์นิเจอร์สำนักงานทั่วไป เพื่อแบ่งพื้นที่การทำงานแต่ละส่วนให้ชัดเจน การกั้นพื้นที่นี้ถ้าไม่ใช้แบบสำเร็จรูปก็อาจจะมีการออกแบบก่อสร้างและติดตั้งขึ้นเองสำหรับสำนักงานที่มีการใช้ผู้รับเหมาเข้ามาทำการก่อสร้างติดตั้งงานตกแต่งภายใน แต่การทำฉากกั้นพื้นที่ทำงานให้มีลักษณะที่เป็นส่วนตัวนี้ก็ต้องคำนึงถึงความพอดี ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป เพราะถ้ามีความเป็นส่วนตัวมากจนเกินไปอาจมีผลเสียต่อการปฏิสัมพันธ์ และยากต่อการควบคุม หรือบางคนอาจจะเผลอนั่งเล่นอินเตอร์เน็ตจนหมดเวลาและทำงานไม่ทัน นอกจากนี้การให้ความเป็นส่วนตัวมากจนเกินพอดีก็จะยากต่อการประสานความร่วมมือกันภายในออฟฟิศ โดยเฉพาะงานที่ต้องตัดสินใจร่วมกันเป็นหมู่คณะ แต่ถ้าไม่มีความเป็นส่วนตัวเลยก็จะให้เสียสมาธิในการทำงาน

อุปกรณ์สำนักงานและเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ในออฟฟิศก็มีผลต่อการทำงานไม่น้อย สำหรับคนที่เริ่มจะแต่งออฟฟิศ ขอแนะนำว่าการเลือกใช้วัสดุหรือเฟอร์นิเจอร์สำนักงานแบบสำเร็จรูปของบริษัทผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน จะช่วยการันตีถึงคุณภาพและมาตรฐานของอุปกรณ์ได้มากกว่าการออกแบบก่อสร้างเอง เพราะเป็นรูปแบบที่ผ่านการคิดค้นและพัฒนามาแล้วจนได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง นอกจากจะใช้งานได้สะดวกสบายสวยงามแล้วยังถูกสุขลักษณะด้วย คือต้องเข้าใจว่าเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งสำนักงานนั้นมีประโยชน์มากกว่าความสวยงามหรือภาพลักษณ์ แต่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการเริ่มต้นปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพของพนักงาน ยกตัวอย่างเช่นโต๊ะเก้าอี้สำนักงาน โดยเฉพาะเก้าอี้นั่งทำงานที่ไม่ได้มาตรฐานจะมีผลโดยตรงต่อความสะดวกสบายและสุขภาพของคนทำงาน ซึ่งบั่นทอนศักยภาพในการทำงานได้อย่างมากมายจนไม่น่าเชื่อ

การตกแต่งบริเวณ work station หรือโต๊ะทำงานของพนักงานแต่ละคนนั้น ถ้าบริษัทเฉลียวฉลาดและใจกว้างพอก็น่าจะอนุญาตให้พนักงานได้มีสิทธิ์ทำโดยอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการนำต้นไม้มาปลูกหรือการนำกรอบรูปภาพมาวางบนโต๊ะ บางคนอาจจะเลยเถิดถึงขั้นเอาอ่างปลามาเลี้ยงในออฟฟิศ หรือเอาเครื่องเสียงหรือทีวีมาเปิดดูหนังฟังเพลง อันนี้ก็แล้วแต่วิจารณญาณของผู้บริหารว่า การกระทำดังกล่าวมีผลเสียต่อการทำงานหรือไม่ หรือมีผลเสียต่อเพื่อนร่วมงานและบรรยากาศโดยรวมของสำนักงานหรือไม่ หากไม่มีผลเสียก็อาจจะยินยอมให้ทำได้ เพราะการแสดงความเป็นเจ้าของพื้นที่ในระดับที่พอเหมาะของคนทำงานเป็นการสื่อที่ดีถึงความพึงพอใจในสถานที่ทำงาน และน่าจะเป็นการสื่อสารถึงความรักความพึงพอใจในงานที่ทำอยู่ไม่มากก็น้อย ซึ่งเป็นทัศนคติที่ดีสำหรับคนทำงาน แม้ว่าในปัจจุบันจะมีเทร็นด์การเปิด OPEN OFFICE หรือ INDY OFFICE ซึ่งเป็นไอเดียออฟฟิศสมัยใหม่ที่ไม่ต้องยึดติดอยู่กับโต๊ะ อาศัยเทคโนโลยีการสื่อสารยุคใหม่ หรือ VIRTUAL OFFICE คนทำงานจะอยู่ที่ไหนก็สามารถทำงานได้ สื่อสารกับทีมงานและเพื่อนร่วมงานได้โดยไม่ต้องเข้ามาประชุมหรือพูดคุยกันซึ่งๆหน้า ไม่ต้องมีโต๊ะทำงานประจำ มีออฟฟิศเอาไว้แบบเปิด ใครเข้ามาตอนไหน เจอที่ว่างๆก็เข้าไปนั่งได้ เพราะข้อมูลมีออนไลน์ถึงกันหมดทั้งบริษัทแค่มีล็อกอินและพาสเวิร์ดก็เข้าทำงานได้ ประหยัดพื้นที่ออฟฟิศและประหยัดค่าใช้จ่ายในด้านอื่นๆ แต่เน้นการลงทุนเพื่อความสะดวกสบายในด้านเทคโนโลยี ซึ่งแนวคิดของออฟฟิศสมัยใหม่นี้กำลังอยู่ในขั้นเริ่มต้นสำหรับบ้านเรา และมีแนวโน้มจะได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในอนาคต เพราะช่วยประหยัดต้นทุนได้ไม่น้อย แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีข้อสงสัยว่า การที่ผู้คนไม่จำเป็นต้องเข้ามาทำงานในสถานที่เดียวกัน ไม่มีการสื่อสารปฏิสัมพันธ์กันจริงๆแบบต่อหน้าต่อตาแต่เป็นการสื่อสารผ่านจอแบบ real time จะมีความเป็นไปได้ด้วยดีมากน้อยแค่ไหน เพราะโดยธรรมชาติส่วนหนึ่งของมนุษย์ก็ยังโหยหาการปฏิสัมพันธ์อยู่พอสมควร และการออกจากบ้านมาทำงานร่วมกับผู้อื่นในสำนักงาน นอกจากจะเป็นการทำงานเพื่อเลี้ยงชีพแล้ว ก็ยังเป็นการตอบสนองความต้องการที่จะอยู่ร่วมกันเป็นสังคมอีกด้วย

องค์ประกอบสำคัญอีกอย่างหนึ่งในสถานที่ทำงานซึ่งไม่เกี่ยวกับบรรยากาศก็คือผู้คน ซึ่งได้แก่เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย ลูกน้อง ลูกค้า ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่คนทำงานไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบเหมือนการจัดโต๊ะเก้าอี้หรือจัดดอกไม้ในแจกัน การทำงานร่วมกับบุคคลอื่นในสำนักงานจึงต้องอาศัยการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมด้วย จึงจะทำงานได้ดี…เป็นมนุษย์งานแถวหน้า

……………..
เรียบเรียงโดย
อ. วรรณศิริ ศรีวราธนบูลย์
dp@dp-studio.com

tul

อาจารย์พรทิพย์ ทองขวัญใจ หรือที่ลูกศิษย์ลูกหาเรียกขานกันอย่างสนิทสนมว่า ครูตุล เป็นสาวเก่งผู้มากด้วยความพรสวรรค์ด้านศิลปะ เป็นผู้กว้างขวางในแวดวงศิลปะ เธอจึงให้เกียรติมาเป็นนักเขียนกิตติมศักดิ์ของ LivingDD.com เพื่อนำเราไปสัมผัสกับไลฟ์สไตล์เก๋ๆ ที่ชวนติดตาม

You may also like...